รีวิว BEHRINGER X AIR ดิจิตอล มิกเซอร์ รุ่น XR12, XR16, XR18

สวัสดีครับทุกท่าน มาพบกันเช่นเคยสำหรับการรีวิวแนะนำโปรดักส์ที่ กระชับ เข้าใจง่ายมาฝากเช่นเคยครับ ซึ่งก็คือ รีวิว BEHRINGER X AIR

หลังจาก Behringer ประสบความสำเร็จจาก มิกเซอร์ดิจิตอลรุ่น X32 ด้วยฟีดเจอร์และฟังก์ชั่นพร้อมเทคโลยีล้ำสมัยแบบจัดเต็ม นอกจากนั้นยังมีราคาที่ทำให้หลายๆท่านตัดสินใจเป็นเจ้าของแบบง่ายๆอีกด้วย

ล่าสุดเทคโนโลยีแบบเดียวกัน Behringer ได้เปิดตัวโปรดักส์รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลง โดยออกแบบรูปทรงอุปกรณ์ให้มีขนาดที่เล็กกระทัดรัด  แต่ประสิทธิภาพยังถือว่ายังคงรักษามาตรฐานเดิม และที่เพิ่มเติมคือ ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่ได้เป็นอย่างดี ด้วยขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา และสามารถยึดเข้ากับแร็คมาตรฐานได้อีกด้วย

• BEHRINGER X AIR XR18 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 18 ชาแนล 12 Bus ฿32,500 (รวม VAT 7% แล้ว)
• BEHRINGER X AIR XR16 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 16 ชาแนล 8 ไมค์ ฿27,000 (รวม VAT 7% แล้ว)
• BEHRINGER X AIR XR12 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 12 ชาแนล 4 ไมค์ ฿20,500 (รวม VAT 7% แล้ว)

รีวิว BEHRINGER X AIR ประกอบด้วย

รุ่น XR12, XR16, XR18 มาดูฟีดเจอร์แต่ละรุ่นพร้อมๆกันเลยครับ

รีวิว BEHRINGER X AIR XR12

มิกดิจิตอลรุ่นนี้มี 12 อินพุท ประกอบด้วย ปรีไมค์คุณภาพสูง ดีไซด์โดย MIDAS

มีแจ็คแบบคอมโบ้ 4 ช่อง ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS 1/4”และ 4 ช่องนี้สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้ และมีช่องอินพุทแบบ TRS 1/4”อีก 8 ช่องอินพุท ช่องอินพุทที่ 11 และ 12 เป็นช่องไฮอิมพีแดนซ์ สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีต้าร์ หรือ กีต้าร์เบส มาเสียบอินพุทเข้าได้เลย

มีเอฟเฟ็กต์โดยใช้เอ็นจิ้นแบบเดียวกับ X32 ซึ่งประกอบด้วยเอฟเฟ็กต์ในตำนาน โดยถอดมาจากบอร์ดรุ่นพี่คือ X32 ซึ่งเป็นดิจิ ตอลคอนโซลตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เอฟเฟ็กต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟ็กต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟ็กต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250

• มีช่อง USB สำหรับเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ 2 track ด้วย
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ใช้ไมโครโฟนยิ่งเยอะยิ่งเจอปัญหา ระบบออโต้มิกนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้น โดยจะทำงานในเชิงออโตเมท ซึ่งควบคุมไมโครโฟนได้พร้อมๆกัน โดยฟังก์ชันนี้จะทำงานตามแบบ ออโต้มิก ซึ่งสามารถแชร์เกนให้โดยอัตโนมัติ เพื่อควบคุมระดับของสัญญาณไมโครโฟนแบบเรียลไทม์ ระบบออโต้มิกนี้สามารถช่วยลดการเกิดปัญหาฟีดแบ็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ก็เหมาะและตอบโจทย์สำหรับงานที่ต้องการใช้ไมโครโฟนจำนวนมากๆเช่นห้องประชุม เป็นต้น

• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or Wi Fi ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad, ระบบแอนดรอยด์และ iOS รวมไปถึงระบบปฎิบัติการลินุกซ์อีกด้วย

MIDI In/Out for Live Performance Controllers

XR12 มีพอร์ต MIDI ไว้รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ แชนเนลของ XR12 ได้ ทั้งในส่วนของ Level, การ mute สัญญาณ, รวมถึงพารามิเตอร์อื่นๆ ที่จำเป็นแบบเรียลทามหรือในขณะเล่นสด พร้อมกับรองรับการอัพเดตเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อให้สามารถรันผ่านโพรโตคอลของอุปกรณ์ที่มี mapping ของโพรโตคอล Mackie Control ซึ่งช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นและกว้างขึ้น จึงเสมือนเป็นรีโมทควบคุมอีกช่องทางหนึ่งผ่านอุปกรณ์ MIDI ทั้งหลาย

100-Band RTA

อีกหนึ่งฟีดเจอร์ที่มาพร้อมกับ XR12 ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆ แชนเนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปกโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การ แคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

รีวิว BEHRINGER X AIR XR16

มิกดิจิตอลรุ่นนี้มี 16 อินพุท ประกอบด้วย ปรีไมค์คุณภาพสูง ดีไซด์โดย MIDAS

มีแจ็คแบบคอมโบ้ 8 ช่อง ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS 1/4”และ 8 ช่องนี้สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้ และมีช่องอินพุทแบบ TRS 1/4”อีก 8 ช่องอินพุท ช่องอินพุทที่ 15 และ 16 เป็นช่องไฮอิมพีแดนซ์ สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีต้าร์ หรือ กีต้าร์เบส มาเสียบอินพุทเข้าได้เลย

มิกดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง 4 สเตอริโอแอนจี้น (4 Onboard X32 Effects Engines)

มีเอฟเฟ็กต์โดยใช้เอ็นจิ้นแบบเดียวกับ X32 ซึ่งประกอบด้วยเอฟเฟ็กต์ในตำนาน โดยถอดมาจากบอร์ดรุ่นพี่คือ X32 ซึ่งเป็นดิจิ ตอลคอนโซลตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เอฟเฟ็กต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟ็กต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟ็กต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250

• มีช่อง USB สำหรับเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ 2 track ด้วย
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ใช้ไมโครโฟนยิ่งเยอะยิ่งเจอปัญหา ระบบออโต้มิกนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้น โดยจะทำงานในเชิงออโตเมท ซึ่งควบคุมไมโครโฟนได้พร้อมๆกันหลายตัว โดยฟังก์ชันนี้จะทำงานตามแบบ ออโต้มิก ซึ่งสามารถแชร์เกนให้โดยอัตโนมัติ เพื่อควบคุมระดับของสัญญาณไมโครโฟนแบบเรียลไทม์ ระบบออโต้มิกนี้สามารถช่วยลดการเกิดปัญหาฟีดแบ็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ก็เหมาะและตอบโจทย์สำหรับงานที่ต้องการใช้ไมโครโฟนจำนวนมากๆเช่นห้องประชุมและคอนเสิร์ต เป็นต้น

• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or Wi Fi ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad, ระบบแอนดรอยด์และ iOS รวมไปถึงระบบปฎิบัติการลินุกซ์อีกด้วย

MIDI In/Out for Live Performance Controllers

XR16 มีพอร์ต MIDI ไว้รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ แชนเนลของ XR16 ได้ ทั้งในส่วนของ Level, การ mute สัญญาณ, รวมถึงพารามิเตอร์อื่นๆ ที่จำเป็นในขณะเล่นสด พร้อมกับรองรับการอัพเดตเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อให้สามารถรันผ่านโพรโตคอลของอุปกรณ์ที่มี mapping ของโพรโตคอล Mackie Control ซึ่งช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นและกว้างขึ้น จึงเสมือนเป็นรีโมทควบคุมอีกช่องทางหนึ่งผ่านอุปกรณ์ MIDI ทั้งหลาย

100-Band RTA

อีกหนึ่งฟีดเจอร์ที่มาพร้อมกับ XR16 ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆ แชนเนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปกโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การแคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

รีวิว BEHRINGER X AIR XR18

มิกดิจิตอลรุ่นนี้มี 18 อินพุท ประกอบด้วย ปรีไมค์คุณภาพสูง ดีไซด์โดย MIDAS

มีแจ็คแบบคอมโบ้ 16 ช่อง ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS 1/4”และ 16 ช่องนี้สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้ และมีช่องอินพุทแบบ TS 1/4”อีก 2 ช่องอินพุทคือช่องอินพุทที่ 17 และ 18 เป็นช่องสเตอริโออินพุท สามารถนำสัญญาณเสียงจาก มัลติเพลเยอร์ต่างๆ มาเสียบอินพุทเข้าได้เลย เช่น cd mp3 player notebook เป็นต้น

มิกดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง4 สเตอริโอแอนจี้น (4 Onboard X32 Effects Engines)

มีเอฟเฟ็กต์โดยใช้เอ็นจิ้นแบบเดียวกับ X32 ซึ่งประกอบด้วยเอฟเฟ็กต์ในตำนาน โดยถอดมาจากบอร์ดรุ่นพี่คือ X32 ซึ่งเป็นดิจิ ตอลคอนโซลตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เอฟเฟ็กต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟ็กต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟ็กต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250

• สำหรับ XR18 มีช่อง USB สำหรับบันทึกเสียงแบบมัลติแทร็ก 18 x18 channel USB interface
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ใช้ไมโครโฟนยิ่งเยอะยิ่งเจอปัญหา ระบบออโต้มิกนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้น โดยจะทำงานในเชิงออโตเมท ซึ่งควบคุมไมโครโฟนได้พร้อมๆกันหลายตัว โดยฟังก์ชันนี้จะทำงานตามแบบ ออโต้มิก ซึ่งสามารถแชร์เกนให้โดยอัตโนมัติ เพื่อควบคุมระดับของสัญญาณไมโครโฟนแบบเรียลไทม์ ระบบออโต้มิกนี้สามารถช่วยลดการเกิดปัญหาฟีดแบ็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ก็เหมาะและตอบโจทย์สำหรับงานที่ต้องการใช้ไมโครโฟนจำนวนมากๆเช่นห้องประชุม เป็นต้น

• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or Wi Fi ไม่ว่าจะเป็น โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad, ระบบแอนดรอยด์และ iOS รวมไปถึงระบบปฎิบัติการลินุกซ์อีกด้วย

MIDI In/Out for Live Performance Controllers

XR18 มีพอร์ต MIDI ไว้รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลเลอร์ต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ แชนเนลของ XR18 ได้ ทั้งในส่วนของ Level, การ mute สัญญาณ, รวมถึงพารามิเตอร์อื่นๆ ที่จำเป็นในขณะเล่นสด พร้อมกับรองรับการอัพเดตเฟิร์มแวร์รุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคต เพื่อให้สามารถรันผ่านโพรโตคอลของอุปกรณ์ที่มี mapping ของโพรโตคอล Mackie Control ซึ่งช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นและกว้างขึ้น จึงเสมือนเป็นรีโมทควบคุมอีกช่องทางหนึ่งผ่านอุปกรณ์ MIDI ทั้งหลาย

100-Band RTA

อีกหนึ่งฟีดเจอร์ที่มาพร้อมกับ XR18 ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆ แชนเนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปกโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การ แคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

จัดดการมอนิเตอร์ส่วนตัวได้ 16 แชนเนล

ง่ายและสะดวกในการส่งสัญญาณเสียง ผ่านช่องทางการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต ULTRANET ซึ่งสามารถส่งซอร์สเสียงในรูปของดิจิตอลได้พร้อมกันถึง 16 ช่อง ผ่านสายสัญญาณ CAT5 โดยใช้อุปกรณ์ P16-D ดิจิตอล ULTRANET เป็นตัวจ่าย หรือจะต่อตรงผ่าน P16-M Personal Monitor Mixers ของ BEHRINGER ก็ได้ ฟีดเจอร์นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและโดดเด่นมาก

ตอบโจทย์สำหรับนักดนตรี นักดนตรีแต่ละคนสามารถปรับแต่งมอนิเตอร์ด้วยตนเองได้อย่างง่ายและอิสระ