รีวิว BEHRINGER X AIR ดิจิตอลมิกเซอร์ ครบทุกรุ่น

ช่องอินพุต ประกอบด้วย

• 4 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ็คแบบคอมโบ้ ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS phone สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้
• 8 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ๊คแบบ TRS ซึ่งชาแนลที่ 11 และ 12 เป็นแบบ Hi-Z สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีตาร์ หรือ กีตาร์เบส มาเสียบอินพุตเข้าได้เลย
• ช่อง USB สำหรับเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ 2 track ด้วย
• ช่อง MIDI IN รับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ ชาแนล

ช่องเอาต์พุต ประกอบด้วย

• 2 ช่อง AUX OUTPUTS เป็นแบบ TRS phone
• 2 ช่อง MASTER OUTPUTS  L / R เป็นแจ็คแบบ XLR สำหรับต่อไปยังเครื่องขยายเสียงหรืออื่นๆ
• 1 ช่อง ช่องสำหรับเสียบหูฟัง เป็นแบบ TRS phone
• ช่อง MIDI OUT ส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้

โปรเซสเซอร์ processor

• Auto-Mixing สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้นที่ช่วยให้การทำงานกับไมโครโฟนหลายๆตัวได้ดี
• 6 aux buses 6 พาราเมติก EQ และกราฟฟิค EQ 31 แบนด์เลือกใช้งาน
• ประมวลผลเชิงสัญญาณระดับ 40bit แบบ floating-point สามารถจัดการไดนามิกเรนจ์ได้ไม่จำกัด เนื่องจากไม่มีการโอเวอร์โหลดของสัญญาณหรืออีกทั้งยังมีค่า Latency ที่ต่ำอีกด้วย
• มิกเซอร์ ดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง 4 สเตอริโอแอนจี้น
• มีเอฟเฟกต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟกต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250
• 100 Band RTA ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆชาแนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปคโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การแคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อ

• มีเสาอากาศเพื่อกระจายสัญญาณ Wi Fi
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or WiFi ด้วยระบบปฎิบัติการ PC/Mac/Linux ด้วยซอฟแวร์ และ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad ผ่าน Android และ iOS

• BEHRINGER X AIR XR12 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 12 ชาแนล 4 ไมค์ ฿20,500 (รวม VAT 7% แล้ว)

ช่องอินพุต ประกอบด้วย

• 8 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ็คแบบคอมโบ้ ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS phone สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้
• 8 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ๊คแบบ TRS ซึ่งชาแนลที่ 15 และ 16 เป็นแบบ Hi-Z สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีตาร์ หรือ กีตาร์เบส มาเสียบอินพุตเข้าได้เลย
• ช่อง USB สำหรับเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอ 2 track ด้วย
• ช่อง MIDI IN รับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ ชาแนล

ช่องเอาต์พุต ประกอบด้วย

• 4 ช่อง AUX OUTPUTS เป็นแบบ XLR
• 2 ช่อง MASTER OUTPUTS  L / R เป็นแจ็คแบบ XLR สำหรับต่อไปยังเครื่องขยายเสียงหรืออื่นๆ
• 1 ช่อง ช่องสำหรับเสียบหูฟัง เป็นแบบ TRS phone
• ช่อง MIDI OUT ส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้

โปรเซสเซอร์ processor

• Auto-Mixing สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้นที่ช่วยให้การทำงานกับไมโครโฟนหลายๆตัวได้ดี
• 6 aux buses 6 พาราเมติก EQ และกราฟฟิค EQ 31 แบนด์เลือกใช้งาน
• ประมวลผลเชิงสัญญาณระดับ 40bit แบบ floating-point สามารถจัดการไดนามิกเรนจ์ได้ไม่จำกัด เนื่องจากไม่มีการโอเวอร์โหลดของสัญญาณหรืออีกทั้งยังมีค่า Latency ที่ต่ำอีกด้วย
• มิกเซอร์ ดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง 4 สเตอริโอแอนจี้น
• มีเอฟเฟกต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟกต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250
• 100 Band RTA ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆชาแนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปคโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การแคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อ

• มีเสาอากาศเพื่อกระจายสัญญาณ Wi Fi
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or WiFi ด้วยระบบปฎิบัติการ PC/Mac/Linux ด้วยซอฟแวร์ และ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad ผ่าน Android และ iOS

• BEHRINGER X AIR XR16 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 16 ชาแนล 8 ไมค์ ฿27,000 (รวม VAT 7% แล้ว)

ช่องอินพุต ประกอบด้วย

• 16 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ็คแบบคอมโบ้ ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS phone สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้ ซึ่งชาแนลที่ 1 และ 2 เป็นแบบ Hi-Z สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีตาร์ หรือ กีตาร์เบส มาเสียบอินพุตเข้าได้เลย
• 2 ช่อง Line in ชาแนล 17 และ 18 สำหรับเครื่องมัลติเพลย์เยอร์ต่างๆเช่น เครื่องเล่น ดีวีดี ซีดี MP3 แจ็คแบบ TRS phone
• ช่อง USB B สำหรับเชื่อมต่อตรงกับ PC/MAC เพื่อเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้ด้วย 18 x18 ชาแนล
• ช่อง MIDI IN รับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ ชาแนล

ช่องเอาต์พุต ประกอบด้วย

• 6 ช่อง AUX OUTPUTS เป็นแบบ XLR
• 2 ช่อง MASTER OUTPUTS  L / R เป็นแจ็คแบบ XLR สำหรับต่อไปยังเครื่องขยายเสียงหรืออื่นๆ
• 1 ช่อง ช่องสำหรับเสียบหูฟัง เป็นแบบ TRS phone
• ช่อง MIDI OUT ส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้

โปรเซสเซอร์ processor

• Auto-Mixing สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้นที่ช่วยให้การทำงานกับไมโครโฟนหลายๆตัวได้ดี
• 6 aux buses 6 พาราเมติก EQ และกราฟฟิค EQ 31 แบนด์เลือกใช้งาน
• ประมวลผลเชิงสัญญาณระดับ 40bit แบบ floating-point สามารถจัดการไดนามิกเรนจ์ได้ไม่จำกัด เนื่องจากไม่มีการโอเวอร์โหลดของสัญญาณหรืออีกทั้งยังมีค่า Latency ที่ต่ำอีกด้วย
• มิกเซอร์ ดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง 4 สเตอริโอแอนจี้น
• มีเอฟเฟกต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟกต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250
• 100 Band RTA ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆชาแนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปคโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การแคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อ

• มีเสาอากาศเพื่อกระจายสัญญาณ Wi Fi
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or WiFi ด้วยระบบปฎิบัติการ PC/Mac/Linux ด้วยซอฟแวร์ และ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad ผ่าน Android และ iOS
• พอร์ต ULTRANET ช่วยให้สามารถส่งซอร์สเสียงในรูปของดิจิตอลได้พร้อมกันถึง 16 ช่อง ผ่านสายสัญญาณ CAT5 โดยใช้อุปกรณ์ P16-D ดิจิตอล ULTRANET เป็นตัวจ่าย หรือจะต่อตรงผ่าน P16-M Personal Monitor Mixers ของ BEHRINGER ก็ได้ ฟีดเจอร์นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและโดดเด่นมาก ตอบโจทย์สำหรับนักดนตรี นักดนตรีแต่ละคนสามารถปรับแต่งมอนิเตอร์ด้วยตนเองได้อย่างง่ายและอิสระ

• BEHRINGER X AIR XR18 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 18 ชาแนล 12 Bus ฿32,500 (รวม VAT 7% แล้ว)

ช่องอินพุต ประกอบด้วย

• 18 ช่อง ไมค์ ปรีแอมป์คุณภาพสูงจาก Midas แจ็คแบบคอมโบ้ ใช้ได้ทั้ง XLR และ TRS phone สามารถใช้ไฟแฟนทอม (Phantom+48v) เพื่อเลี้ยงไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ได้ ซึ่งชาแนลที่ 1 และ 2 เป็นแบบ Hi-Z สามารถนำสัญญาณเสียงจาก กีตาร์ หรือ กีตาร์เบส มาเสียบอินพุตเข้าได้เลย
• 2 ช่อง Line in ชาแนล 17 และ 18 สำหรับเครื่องมัลติเพลย์เยอร์ต่างๆเช่น เครื่องเล่น ดีวีดี ซีดี MP3 แจ็คแบบ RCA
• ช่อง USB B สำหรับเชื่อมต่อตรงกับ PC/MAC เพื่อเล่นเพลงและบันทึกเสียงแบบสเตอริโอได้ด้วย 18 x18 ชาแนล
• ช่อง MIDI IN รับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอนโทรลต่างๆ อาทิ X-TOUCH และ B-CONTROL ซึ่งการคอนโทรลสามารถจัดการในทุกๆ ชาแนล

ช่องเอาต์พุต ประกอบด้วย

• 6 ช่อง AUX OUTPUTS เป็นแบบ TRS phone
• 2 ช่อง MASTER OUTPUTS  L / R เป็นแจ็คแบบ XLR สำหรับต่อไปยังเครื่องขยายเสียงหรืออื่นๆ
• 2 ช่อง Monitoring Outputs สำหรับส่งสัญญาณให้เป็นแบบสเตอริโอ แบบ RCA
• 1 ช่อง ช่องสำหรับเสียบหูฟัง เป็นแบบ TRS phone
• ช่อง MIDI OUT ส่งสัญญาณเสียงไปยังอุปกรณ์ภายนอกได้

โปรเซสเซอร์ processor

• Auto-Mixing สามารถจัดการกับสัญญาณเกนของไมค์แต่ละตัวได้ง่ายขึ้นที่ช่วยให้การทำงานกับไมโครโฟนหลายๆตัวได้ดี
• 6 aux buses 6 พาราเมติก EQ และกราฟฟิค EQ 31 แบนด์เลือกใช้งาน
• ประมวลผลเชิงสัญญาณระดับ 40bit แบบ floating-point สามารถจัดการไดนามิกเรนจ์ได้ไม่จำกัด เนื่องจากไม่มีการโอเวอร์โหลดของสัญญาณหรืออีกทั้งยังมีค่า Latency ที่ต่ำอีกด้วย
• มิกเซอร์ ดิจิตอลรุ่นนี้มาพร้อมมัลติเอฟเฟคคุณภาพสูง ถึง 4 สเตอริโอแอนจี้น
• มีเอฟเฟกต์ตัวออนบอร์ดจะจำลองการทำงานเสมือนระบบแร็ค โดยมี 4 เอฟเฟกต์สเตอริโอหรือ 8 โมโน พร้อมกับมัลติเอฟเฟกต์ ไม่ว่าจะเป็น ดีเลย์ คอรัส รีเวิร์ป ซึ่งเอฟเฟ็กต์เหล่านี้มักจะเป็นเอฟเฟ็กต์รุ่นดังๆ ในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น Lexicon 480L และ PCM70 ตลอดจน EMT250
• 100 Band RTA ซึ่งเป็น RTA คุณภาพสูง ซึ่งตัวนี้มีถึง 100 แบนด์ เป็น Real Time Analyzer ที่ใส่เข้าไปได้ทุกๆชาแนล พร้อมกับมุมมองที่แสดงให้เห็นทั้งบาร์และสเปคโทกราฟ โดยแสดงผลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งทำให้เห็นพลังงานของเสียงมากถึง 100 ความถี่ การแคปเจอร์ สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อ

• มีเสาอากาศเพื่อกระจายสัญญาณ Wi Fi
• มาพร้อม Wi-Fi เราท์เตอร์ 3 โหมด (Built-In Tri-Mode Wi-Fi Router) สำหรับเชื่อมต่อและสามารถควบคุมคอลโทรลมิกเซอร์รุ่นนี้ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
• รองรับอุปกรณ์สำหรับคอนโทรลผ่าน App ผ่าน Ethernet, LAN or WiFi ด้วยระบบปฎิบัติการ PC/Mac/Linux ด้วยซอฟแวร์ และ โน้ตบุ๊ค แท็บเล็ต iPad ผ่าน Android และ iOS
• พอร์ต ULTRANET ช่วยให้สามารถส่งซอร์สเสียงในรูปของดิจิตอลได้พร้อมกันถึง 16 ช่อง ผ่านสายสัญญาณ CAT5 โดยใช้อุปกรณ์ P16-D ดิจิตอล ULTRANET เป็นตัวจ่าย หรือจะต่อตรงผ่าน P16-M Personal Monitor Mixers ของ BEHRINGER ก็ได้ ฟีดเจอร์นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและโดดเด่นมาก ตอบโจทย์สำหรับนักดนตรี นักดนตรีแต่ละคนสามารถปรับแต่งมอนิเตอร์ด้วยตนเองได้อย่างง่ายและอิสระ

• BEHRINGER X AIR X18 เครื่องผสมสัญญาณเสียง ดิจิตอล 18 ชาแนล 12 Bus ฿26,500 (รวม VAT 7% แล้ว)

สรุป

ทุกคนคงทราบถึงความเหมือนและแตกต่างของ Behringer X AIR ซีรีส์กันแล้วนะครับ แต่ละรุ่นนั้นก็มีความเหมือนกันมาก ยิ่งรุ่นเริ่มใหญ่ก็จะมีชาแนลที่เยอะกว่ามากขึ้น โดยที่รุ่นใหญ่อย่าง X AIR X18 จะมีลักษณะที่แตกต่างจากรุ่นเล็ก โดยที่จะมีแท่นว่าง Ipad/Tablet มาเพิ่มเพื่อเพิ่มความสะดวกต่อผู้ใช้งานได้อย่างดี อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่าต้องการใช้ประมาณแค่ไหนจึงเหมาะสม ราคาที่รับได้ของผู้ใช้งานตรงตามที่ต้องการไหม สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อนครับ ครั้งหน้าจะนำสาระดีๆมาฝากอีก ขอบคุณครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก Behringer