สายลำโพง

จำหน่ายสายลำโพง ของแท้ คุณภาพจากยี่ห้อระดับโลก ราคาพิเศษ

VL-AUDIO V-Line S04N40 สายลำโพง สายขนาด 4 x 4 mm² ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿1,240 (รวม VAT 7% แล้ว)

VL-AUDIO V-Line S02N40 สายลำโพง สายขนาด 2 x 4mm² ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿680 (รวม VAT 7% แล้ว)

VL-AUDIO V-Line S04N25 สายลำโพง สายขนาด 4 x 2.5mm² ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿815 (รวม VAT 7% แล้ว)

VL-AUDIO V-Line S02N25 สายลำโพง สายขนาด 2 x 2.5mm² ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง ความยาว 100 เมตร (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿465 (รวม VAT 7% แล้ว)

VL-AUDIO V-Line TP02N15 สายใช้ในตู้ลำโพง 2 คอร์ ขนาด 1.5 Sqmm. ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿250 (รวม VAT 7% แล้ว)

VL-AUDIO V-Line TP02N25 สายใช้ในตู้ลำโพง 2 คอร์ ขนาด 2.5 Sqmm. ทำจากทองแดง OFC คุณภาพสูง (ไม่มีหัวคอนเน็คเตอร์)

฿355 (รวม VAT 7% แล้ว)

สายลำโพง คืออะไร ?

สายลำโพงทำหน้าที่เชื่อมต่อทางไฟฟ้าระหว่างลำโพงและเครื่องขยายเสียง (แอมป์) มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าที่สำคัญ 3 ประการได้แก่ ความต้านทาน ความจุไฟฟ้า และความเหนี่ยวนำ ซึ่ง ความต้านทานที่ต่ำนั้น ช่วยให้จ่ายพลังงานจากแหล่งจ่ายไปยังลำโพงได้มากขึ้น นั่นหมายความว่าลำโพงจะมีพลังเสียงที่มากขึ้น

ความต้านทานส่งผลต่อประสิทธิภาพอย่างไร?

ความต้านทาน จะเริ่มมีผลต่อประสิทธิภาพของลำโพงเมื่อความต้านทานมากกว่า 5% ของอิมพีแดนซ์ลำโพง ความต้านทานจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยหลัก 2 อย่าง ได้แก่ ความยาวของเส้นลวดและพื้นที่หน้าตัดของเส้นลวด (ความหนา) ความยาวของสายนั้นมีผลต่อความต้านทาน ถ้าสายลำโพงมีความยาวมากจนเกินไปจะลดค่ากระแสไฟฟ้าให้น้อยลง ส่งผลต่อรายละเอียดและความชัดเจนของเสียงได้ ซึ่งจุดนี้เราพอสรุปได้ว่า ความยาว ของสายลำโพงนั้นมีผลกับเสียงของลำโพงนั้นเอง โดยความยาวของสายลำโพงควรเริ่มต้นที่ 2 เมตร ขนาดหน้าตัดของสายหรือความหนานั้นจะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพเสียง หน้าตัดที่ใหญ่กว่าจะให้รายละเอียดเสียงที่เต็มกว่า หากมีการใช้กระแสสูงๆ ควรเลือกใช้สายลำโพงเส้นใหญ่และเป็นแกนเดี่ยว เพราะสายลำโพงเส้นเล็กกระแสของการวิ่งผ่านอาจจะไม่เพียงพอต่อลำโพงที่กินกำลังวัตต์หรือแอมป์ที่มีกำลังสูงๆ แต่สายลำโพงแกนเดี่ยวราคาจะค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่าในการลงทุนซื้อ

วัสดุที่ใช้ทำตัวนำสัญญาณภายในสาย

ทองแดง เป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับสายลำโพงเนื่องจากมีต้นทุนต่ำและมีความต้านทานต่ำนำไฟฟ้าได้ดี แต่ทองแดงนั้นสามารถทำปฏิกิริยา ออกซิไดซ์ ได้ เมื่อสัมผัสกับอากาศทองแดงบริสุทธิ์จะทำปฏิกิริยาและสร้างคอปเปอร์ออกไซด์ ที่เคลื่อบไปทั่วสาย ซึ่งปฏิกิริยานี้จะสร้างอุปสรรคระหว่างสายเคเบิลและลำโพง/แอมพลิฟายเออร์ ทำให้การเชื่อมต่ออ่อนลงได้ ดังนั้นจึงต้องหุ้มด้วยฉนวนอย่างดี
เงิน ได้รับความนิยมน้อยกว่าทองแดง มีความต้านทานต่ำนำไฟฟ้าได้ดีกว่าทองแดงเล็กน้อยแต่มีราคาแพงกว่าทองแดง
ทอง ไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซ์ จึงสามารถใช้สำหรับหัวสายแบบ Termination ได้ แต่เนื่องจากมีความต้านทานสูงกว่าทองแดงหรือเงิน จึงไม่ค่อยได้ใช้ทำเป็นสายลำโพงมากเท่าไหร่

เช่นเดียวกับโลหะทั้งหมด ยิ่งมีความบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ ต้นทุนก็จะยิ่งสูงขึ้น (ราคาต่อเมตร) และไม่ว่าจะส่งผลต่อเสียงมากน้อยเพียงใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลในการเลือกซื้อ

เทคนิคการเลือกสายลำโพง

จะเห็นได้ว่าสายลำโพงนั้นมีความสำคัญ ดังนั้นไม่ควรมองข้ามและให้ความสำคัญกับสายลำโพง เริ่มจากการสำรวจลำโพงของตัวเองว่าเป็นแบบไหน เช่น ลำโพงฮอร์น หรือลำโพงวินเทจ ให้เราใช้แค่สายขนาดเล็กก็เพียงพอแล้วและไม่จำเป็นต้องใช้สายที่มีราคาสูง เพราะลำโพงประเภทนี้ ไม่ต้องการกระแสไฟสูง หรือแรงดัน แรงอัดเยอะๆ ใช้สายไฟขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว ส่วนลำโพงที่ใช้กำลังวัตต์เยอะ หรือมีซับวูฟเฟอร์ หรือการใช้กระแสไฟสูงๆ ควรเลือกใช้สายลำโพงเส้นใหญ่และเป็นแกนเดี่ยว เพราะสายเส้นใหญ่จะให้การจ่ายกระแสไฟได้ดี ให้ความรู้สึก มีอิมแพค มีไดนามิก ความคมชัด และเสียงที่ใหญ่ แม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่คุ้มค่ามากพอที่เราจะเสียเงินในจุดนี้ การเลือกความยาวของสายลำโพงที่มีผลต่อคุณภาพของเสียงด้วยเช่นกัน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่ที่แบรนด์ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไป โดยความยาวของสายลำโพงควรเริ่มต้นที่ 2 เมตร