น้ำเสียงต้องมีหนักเบาอบอุ่นกระตือรือร้น ออกเสียงเว้นวรรคให้ถูกต้อง ตัวควบกล้ำที่ชัดเจน เป็นมิตรกับผู้ฟังและมีอารมณ์ร่วมในคอนเทนต์ที่พูด

การใช้ไมโครโฟนช่วย ข้อนี้ ห้ามมองข้ามเด็ดขาดครับ เมื่อเราได้รับหน้าที่เป็นพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เนื้อหาหรือคอนเทนต์ต่างๆเท่านั้น แต่ยังมีอุปกรณ์อีกอย่างหนึ่งที่เขาเรียกว่า “ไมโครโฟน” ซึ่งเป็นของคู่กันสำหรับพิธีกรหรือผู้ดำเนินรายการ ทีนี้เราควรใช้ไมค์ให้เกิดประโยชย์สูงสุดอย่างไร ผมขอแนะนำสำหรับพิธีกรมือใหม่และมืออาชีพควรมีไมค์เป็นของตัวเองดีที่สุด เพื่อสุขอนามัย และเป็นไมค์ที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด คุ้นเคยที่สุด ซึ่งการมีไมโครโฟนเป็นของส่วนตัว ย่อมส่งผลบวกมากกว่าส่งผลที่ไม่ปรารถนาอย่างแน่นอน

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันคร่าวๆก่อนครับว่าไมโครโฟน คืออะไร ?

ไมโครโฟน (Microphone) คือ อุปกรณ์รับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อประมวลผลในเครื่องขยายเสียงหรืออุปกรณ์ผสมเสียงอื่น ๆ ไมโครโฟนประกอบด้วยขดลวดและแม่เหล็กเป็นหลัก เมื่อเสียงกระทบตัวรับในไมโครโฟน จะทำให้ขดลวดสั่นสะเทือนตัดกับสนามแม่เหล็ก จึงทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้า โดยทั่วไปไมโครโฟนใช้รับเสียงพูดหรือเสียงร้องเพลง จะแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ แบบไดนามิก และ แบบคอนเดนเซอร์

ไมโครโฟน (Microphone) เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับผู้ที่ ทำหน้าที่เป็นพิธีกรอย่างมาก การเป็นพิธีกร จะประสบความสำเร็จหรือ จะพบกับความล้มเหลวนั้น ไมโครโฟนถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามงานอีเว้นท์ในบางครั้ง อาจจะเกิดปัญหาขึ้นที่เครื่องเสียงหรือที่ไมโครโฟน ควรจะต้องตรวจความพร้อมก่อนเวลาเสมอๆ ดังนั้นเทคนิคการใช้ไมโครโฟน จึงเป็นทักษะพื้นฐานที่พิธีกรควรจะทราบ

1. พิธีกรควรทำการทดสอบไมโครโฟนก่อนการใช้งานทุกครั้ง
   เสียงเป็นอย่างไร ชัดเจนแค่ไหน และจะทิ้งระยะห่างระหว่างไมโครโฟนกับปากในระยะเท่าไหร่ อย่าถือหรือเลื่อนไมโครโฟนเข้าไปจนชิดปาก ถ้าเป็นไมโครโฟนที่มีความไว อาจพูดห่างจากปากได้ โดยฟังหรือสังเกตได้จากการฟังด้วยหูของเราเอง
2. สวิชท์เปิด-ปิดไมโครโฟน
   พิธีกรต้องสังเกตตำแหน่งสวิชท์เปิด-ปิดของไมโครโฟนก่อนพูดต้องเปิดให้เรียบร้อย และ เมื่อพูดจบต้องปิดให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันเสียงอื่นๆแทรก ในขณะที่ไม่ได้ใช้ไมโครโฟน นอกจากนี้ขาตั้งไมโครโฟนก็มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากมีหลายรูปแบบ เช่น บางรุ่นจะใช้วิธีหมุนเกลียว บางรุ่นจะใช้วิธียกที่ข้อต่อ เพื่อที่จะปรับให้เหมาะสมในแต่ล่ะสถานการณ์
3. ไม่เคาะ ไม่เป่าหัวไมค์
   พิธีกรไม่ควร เคาะหัวไมค์ แรงๆหรือ เป่าลมใส่ไมโครโฟนเป็นอันขาด เพราะมันอาจจะทำให้ตัวรับสัญญานเสียงของไมโครโฟนเสียหายได้ นอกจากนั้นยังทำให้เกิดเสียงดัง “ปุ๊กๆๆๆ” เป็นที่น่ารำคาญแก่ผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง ควรใช้คำว่า “สวัสดีค่ะ” หรือ “สวัสดีครับ” พูดทดลองเสียง
4. อย่าหลุกหลิก
   การพูดโดยการใช้ไมโครโฟนที่ตั้งอยู่กับที่ พิธีกรไม่ควรหลุกหลิกและหันหน้าไปอธิบายที่แผ่นป้าย หรือ กระดานดำ หรือ ลุกไปมาจนห่างไมโครโฟน จะทำให้เสียงที่พูดขาดตอน ความดังของเสียงจะไม่สม่ำเสมอ
   
   แต่สามารถแก้ไขปัญหาได้ง่ายๆด้วยการใช้ไมโครโฟนไร้สาย ดังต่อไปนี้ ไมค์หนีบปกเสื้อ (Lavalier Microphones), ไมค์คาดศรีษะ (Headset Microphones) และไมค์เกี่ยวคล้องหู (Earset Headworn Microphones)
   
5. อย่ายืนถือขนาบข้างลำตัว
   เมื่อพูดจบในแต่ละช่วงแล้วถ้าหากท่านจำเป็นต้องยังยืนอยู่บนเวที และต้องถือไมโครโฟนไว้ควรจะถือไว้ระดับเอวอย่ายืนถือแบบตามสบายโดยขนาบข้างลำตัว เพราะจะทำให้เราเสียบุคลิกภาพ