การประมวลผล

Euphonia มอบเสียงที่ไพเราะ ที่มาพร้อมกับความชัดเจนของเสียงดิจิตอล และ ความสมบูรณ์ของอนาล็อกที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนจาก มิกเซอร์ดีเจ มาก่อน ส่งผลให้คุณภาพเสียงมีความชัดเจน ถ่ายถอดอารมณ์ของเพลงได้อย่างแม่นยำ อุปกรณ์มีการใช้ A/D 32 บิต และ ตัวแปลง D/A คุณภาพสูง ในการประมวลผลระดับทศนิยม 96kHz/64bit ใน DSP โดยใช้ระบบดิจิตอล และเทคโนโลยีการประมวลของ AlphaTheta ที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน

วงจร transformer

เสียงจะถูกส่งผ่านวงจร transformer ที่ถูกออกแบบร่วมกันระหว่าง AlphaTheta กับ Rupert Neve Designs ซึ่งเป็นผู้สร้างเสียงอนาล็อก และ mixing desks ระดับตำนาน ที่เหล่าศิลปิน และ วิศวกรด้านเสียง ให้ความเคารพนับถือ ตัววงจรนี้ถูกปรับแต่งมาสำหรับ euphonia โดยเฉพาะ มันจะเพิ่ม harmonics ให้กับเสียงเพลง และสร้างเสียง glossy และมีพลัง ที่จะช่วยในการมิกซ์ให้ราบรื่นมากขึ้น มีความถี่ต่ำ และมีความเสถียรและความหนักแน่นที่มากกว่า ความถี่กลาง จะมีความโดดเด่นและ gloss ที่มากกว่า ส่วนความถี่สูง จะให้เสียงที่นุ่มนวล และเป็นธรรมชาติ ทำให้การมิกซ์เสียงง่ายขึ้นและเป็นธรรมชาติ

ปุ่มกด

เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการมิกซ์ให้ใช้งานง่ายมากขึ้น euphonia จึงเต็มไปด้วย rotary faders ที่ได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน และหลังจากการทดสอบมากมาย จึงได้ขนาดปุ่มที่เหมาะสมในการกด โดยเราจะทา elastomer ที่รอบๆ แต่ละปุ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถจับได้สบาย อีกทั้งยังดูดซับแรงสั่นสะเทือนสูง

Faders

กลไกถูกพัฒนาขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ สำหรับ faders ตัวถ่วงน้ำหนักมีความเหมาะสม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสได้ถึงความเร็วของปุ่มว่ามีความเร็วในการหมุนที่แตกต่างกัน มันจะหมุนอย่างนุ่มนวลเมื่อหมุนปุ่มอย่างช้าๆ และเพื่อการปรับแต่งอย่างละเอียด load level จะถูกจำกัดไว้เมื่อปุ่มถูกหมุนอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ระดับเสียงที่ต้องการในทันที และ fader volume curves ได้รับการปรับอย่างเหมาะสมผ่านฟีดแบคจากดีเจหลายคน ช่วยให้การมิกซ์เสียงเป็นไปอย่างราบรื่น และเป็นธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องปรับสมดุล

มิเตอร์ VU

สามารถมองค่าสถานะการมิกซ์ของคุณ และความสมดุลของระดับเสียง ได้ที่ euphonia’s Energy Visualizer ปกติตัวมิเตอร์ VU มีเพียง 1 เข็ม ทำให้ดีเจมองระดับชาแนลหลายๆอัน ในเวลาเดียวกันได้ยาก แต่ euphonia ได้พัฒนาตัววัดระดับขึ้นมาเป็นพิเศษ ให้มีตัวเข็มในแต่ละชาแนล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบระดับชาแนลได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถมองสมดุลของเอาต์พุตหลัก ได้ด้วยการดูที่ Spectrum Analyzer ส่งผลให้มันช่วยรักษาการมิกซ์เสียงของผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอและราบรืน

Isolator คุณภาพสูง

ขนาดของปุ่ม isolator เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการหมุนจากศูนย์กลางไปยังต่ำสุด และสูงสุด อย่างรวดเร็ว อีกทั้งแรงบิดยังมีความสมดุล สำหรับการใช้งานอย่างรวดเร็วอีกด้วย ให้ความรู้สึกที่หรูหรา และไม่เบามากเกินไป cut-off frequency และความชัน  ได้รับการตั้งค่าเพื่อควบคุม และเน้นที่จังหวะ, เมโลดี้, วงดรตรี ให้เป็นธรรมชาติ และคมชัด

การใช้งานมือเดียว

มีการเพิ่ม built-in Send Effects หรือเอฟเฟกต์จากภายนอก ที่ให้เสียงในทุก master isolator frequency bands เพียงกดปุ่ม Boost Send สำหรับเสียงต่ำ, กลาง หรือสูง เมื่อผู้ใช้งานหมุนปุ่มที่แยกเสียง เอฟเฟกต์จะถูกนำไปใช้กับ bands นั้น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ไม่จำเป็นต้องใช้สองมือเหมือนเมื่อก่อน

เพิ่มระดับในสไตล์ของคุณ

เลือกการตั้งค่าการเพิ่มระดับ ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของผู้ใช้งาน ระดับเสียงในแต่ละย่านความถี่จะเพิ่มขึ้นตามจำนวน +12dB สำหรับแสดงไดนามิค, +6dB สำหรับการปรับคุณภาพเสียง และ 0dB สำหรับเอฟเฟกต์เสียงสะท้อนโดยไม่มีการเพิ่มระดับเสียง

เอฟเฟกต์

มีฟีเจอร์ spatial effects 5 ตัว และฟิลเตอร์ high-pass เพื่อให้คุณสามารถเพิ่ม depth และ breadth ในเพลงของคุณ ได้อย่างง่ายดาย อาทิ Delay, Tape Echo, Echo Verb, Reverb, Shimmer และ HPF นอกจากนี้ยังสามารถ Send/Return เซคชันที่คุณเชื่อมต่อกับเอฟเฟกต์ภายนอกได้ ตัวปุ่มสำหรับหมุนแต่ละชาแนลจะช่วยให้สามารถปรับระดับการส่งไปยังเอฟเฟกต์ที่เลือก เพื่อให้ผู้ใช้งานใช้ในปริมาณที่เหมาะสมได้ มีปุ่มเวลาที่จะช่วยในการปรับการหน่วงของเวลาจำพวก delay และ reverb กลไกในอุปกรณ์เป็นเอกสิทธิ์ที่พัฒนาขึ้นสำหรับยูนิตนี้โดยเฉพาะ มันจะสลับระหว่างความรู้สึกในการคลิก หรือไม่คลิก โดยอัตโนมัติ (ขึ้นอยู่กับเอฟเฟกต์ที่เลือก)

• เมื่อใช้เอฟเฟกต์ Delay, Tape Echo และ Echo Verb ปุ่มจะคลิกตามจังหวะ BPM เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
• เมื่อใช้งาน Reverb และ Shimmer จะไม่มีการคลิก ทำให้ผู้ใช้งานสามารถหมุนปุ่มได้อย่างอิสระ

การออกแบบ

ถูกออกแบบมาเพื่อสื่อถึงยุคสมัยใหม่ของ rotary mixers มีรูปลักษณ์แบบ two-tone, two-layer ที่เป็นสัญลักษณ์ของทั้งนวัตกรรมและประเพณี ช่องสัญญาณ ประกอบไปด้วยองค์ประกอบมิกเซอร์แบบดั้งเดิม แต่ในส่วนของจอแสดงผลเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ ผสมผสานทั้งองค์ประกอบและดิจิตอลเข้าด้วยกัน สีทองแดงบนปุ่มสื่อถึงเสียงอนาล็อก และสีไม้ถูกทาเป็นสีดำที่แผงด้านข้าง ช่วยให้มีความกลมกลืนมากขึ้น