ความหมายของคำว่า DJ

คำว่า “DJ” นั้นย่อมาจากคำว่า Disc Jockey ที่เป็นผู้จัดรายการเพลงคอยเล่นเพลง และมิกซ์เสียงเพลงจากแผ่น Vinyl ให้ความบันเทิงกับผู้คนที่อยู่ในสถานที่นั้นๆ แต่ในทุกวันนี้เหล่าดีเจหลายๆ คนเน้นทำงานกับไฟล์เพลงดิจิตัลมากกว่าแผ่นเพลงจริงๆ เนื่องจากสะดวกในการใช้งานมากกว่าแต่คุณภาพและรายละเอียดงานยังคงเหมือนเดิมกับการเล่นแผ่นเสียง.

และอาชีพของ ดีเจ ถูกแบ่งเป็น 3 หมวดหมู่คือ:

• Mobile DJs: เป็นดีเจที่ใช้อุปกรณ์ไม่ค่อยเยอะ เรียกได้ว่าเป็นดีเจที่มีความคล่องตัวสูง มีอุปกรณ์เสียงคุณภาพสูง และคอลเลคชันเพลงเป็นของตัวเอง คอยเล่นเพลงตามงานของโรงเรียน งานเลี้ยง หรืองานแต่ง
• Club DJs: เป็นดีเจที่คอยให้ความบันเทิงตามคลับ ผับ หรือแม้แต่งานคอนเสิร์ต ที่คอย เอนเตอร์เทน ทำให้คนในพื้นที่ได้สนุกโลดเต้นตามจังหวะเสียงเพลง
• Radio DJs: เป็นดีเจที่เราสามารถพบเห็นได้ตามชีวิตประจำวันผ่านรายการวิทยุทั่วไป

• PIONEER DJ DDJ-REV1 เครื่องเล่นดีเจ Scratch-style 2 ชาแนล ฿14,900 ฿10,900 (รวม VAT 7% แล้ว)
• PIONEER DJ CDJ-350 เครื่องเล่นดีเจ เล่น USB และ จอแสดงผล BEAT ฿38,000 ฿26,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

ดีเจ ต้องทำอะไรบ้าง ในการแสดงแต่ละครั้ง?

หลายๆ คนคงเข้าใจว่าหน้าที่ของ ดีเจ นั้นคือการเปิดเพลงกับการสแครชแผ่นเพียงอย่างเดียว แต่การเป็นดีเจมีอะไรที่มากกว่านั้น. ซึ่งการที่เป็นอาชีพดีเจไม่ได้แปลว่าดีเจทุกคนต้องสร้างดนตรีมาเป็นของตัวเอง แต่เป็นการที่นำคอลเลคชั่นเพลงของหลายๆเพลงมามิกซ์ผสมกันให้เกิดทำนอง และจังหวะที่น่าตื่นเต้นให้เหมาะสมกับธีมงาน หรือสถานที่ที่ดีเจคนนั้นกำลังแสดงอยู่.

ฟังๆ แล้วดูเหมือนว่าการเป็นดีเจก็เปรียบเสมือนการทำรายการเพลงให้ผู้ฟังได้ฟังกัน แต่ลึกๆ แล้วอาชีพดีเจนั้นมีข้อแตกต่างหลายอย่างอยู่ที่สายงานในอาชีพทำรายการเพลงทำไม่ได้คือ:

• สามารถมิกซ์เพลงและสร้างทรานสิชั่นทางดนตรีได้ในหน้างานเลย ซึ่งช่วยให้อินโทรและเอาท์โทรของเพลงต่างๆ ประสานกันได้อย่างราบรื่น ทำให้เพลงไหลได้ง่าย และปราศจากสิ่งรบกวนที่อาจทำให้ผู้ฟังอารมณ์เสีย หรือเสียสมาธิในการรับฟัง.
• การเป็นดีเจสามารถตรวจสอบเสียงเพลงให้แน่ใจได้ว่าระดับเอาต์พุตเสียงยังคงสอดคล้องกันระหว่างเพลง เนื่องจากเพลงบางเพลงจะมีองค์ประกอบที่ดังหรือเบากว่า และการเล่นสองเพลงติดต่อกันอาจทำให้เสียงเกิดการผิดเพี้ยนขึ้นได้.
• การเป็นดีเจสามารถอ่านใจ หรืออ่านความรู้สึกของผู้ฟังที่อยู่ในสถานที่นั้นๆ และเปลี่ยนเพลย์ลิสต์เพื่อช่วยให้อารมณ์ของงานมีความสม่ำเสมอ หากอารมณ์ของฝูงชนนั้นลดลง ดีเจก็จะมีหน้าที่เปลี่ยนเพลงให้มีจังหวะที่น่าตื่นเต้น และเร้าใจให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ความสนุกตลอดงาน.

ตัวอย่างงาน ดีเจ:

แล้วอาชีพ ดีเจ สำคัญต่อวงการเพลงอย่างไร?

อาชีพดีเจนั้นมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเพลงเป็นอย่างมาก เพราะว่าอาชีพเหล่านี้จะเปิดเพลงเล่นให้ผู้บริโภคฟังมากกว่านักดนตรีทั่วไป แล้วเพลงที่เล่นก็จะเข้าถึงได้ง่ายกว่านักดนตรีทั่วไป. และดีเจเหล่านี้ยังเข้าใจรสนิยมทางดนตรีของแฟนๆ อย่างชัดเจน เนื่องจากมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับพฤติกรรมผู้ฟัง พวกเขามีความสำคัญมากในการแนะนำเพลงใหม่ให้กับผู้บริโภคเพลง.

ดังนั้นนักดนตรีทั่วโลกจึงสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับเหล่าดีเจ เพราะว่าพวกเขามักจะเปิดหูเปิดตาตามท้องถนน ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นคนกลุ่มแรกที่รู้ว่าศิลปินหน้าใหม่คนไหนที่ได้รับความนิยม เพลงใดที่ผู้บริโภคชื่นชอบ และเพลงใดที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากผู้ชม ดีเจจึงสามารถให้ข้อเสนอแนะแก่นักดนตรีได้อย่างน่าเชื่อถือ.

และการที่เป็นดีเจนั้นก็ยังมีชื่อเสียงที่สู้ศิลปินดังๆ บางคนได้เลยอย่างเช่น: ดีเจ SODA, marshmello, MARTIN GARRIX, ดีเจ Snake, Skrillex

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: felixandfingers, hipipo

• PIONEER DJ OPUS-QUAD เครื่องเล่นดีเจ All in One ฿179,000 ฿129,000 (รวม VAT 7% แล้ว)
• PIONEER DJ DJM-A9 มิกเซอร์ ดีเจ 4 ชาแนล ฿159,000 ฿119,000 (รวม VAT 7% แล้ว)
• PIONEER DJ DDJ-REV1 เครื่องเล่นดีเจ Scratch-style 2 ชาแนล ฿14,900 ฿10,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

บทความที่คุณอาจสนใจ..

8 Tricks อัดเสียง ในห้องสตูอย่างไร!? ให้นักร้องเสียงดี?

TIDAL แอปฟังเพลงดีๆ ที่ชาว HiFi ไม่ควรพลาด!!

DAW คืออะไร? และเทคนิคในการเลือกใช้ DAW ให้เหมาะกับคุณ

รู้หรือไม่ว่า หูฟัง ANC หรือ หูฟังตัดเสียงรบกวน คืออะไร? ทำงานอย่างไร? ช่วยอะไรบ้าง?