RODE NT1 5th Generation ไมโครโฟนสตูดิโอ แบบคอนเดนเซอร์

Original price was: ฿13,200.Current price is: ฿9,900. (รวม VAT 7% แล้ว)

เลือกสี

เช็ค Stock และราคาสินค้า กับเจ้าหน้าที่ก่อนสั่งซื้อทุกครั้ง
รับสินค้าภายใน 3 - 7 วัน (ขึ้นอยู่กับที่อยู่จัดส่งของลูกค้า)

สงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงข้อมูล ราคา ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สงวนสิทธิ์การรับผิดชอบเนื่องจากการพิมพ์ผิดพลาดต่างๆ

แชร์หน้านี้ :

เช็ค Stock และราคาสินค้า กับเจ้าหน้าที่ก่อนสั่งซื้อทุกครั้ง
รับสินค้าภายใน 3 - 7 วัน (ขึ้นอยู่กับที่อยู่จัดส่งของลูกค้า)
สงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลงข้อมูล ราคา ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
สงวนสิทธิ์การรับผิดชอบเนื่องจากการพิมพ์ผิดพลาดต่างๆ

แชร์หน้านี้ :

ไมโครโฟนสตูดิโอ RODE NT1 5th Generation แบบคอนเดนเซอร์ มีเอาต์พุต Dual Connect ที่ล้ำสมัย เสียงรบกวนต่ำเป็นพิเศษ การตอบสนองความถี่ที่ราบรื่น มีความไวและการจัดการ SPL สูง พร้อม DSP ออนบอร์ดสำหรับการประมวลผลเสียง APHEX ขั้นสูง

RODE NT1 5th Generation
Studio Condenser Microphone

รายละเอียดสินค้า

NT1 5th Generation เป็นไมโครโฟรสตูดิโอคอนเดนเซอร์ ที่หลอมรวมเอกลักษณ์เสียงแบบคลาสสิกของ NT1เข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำยุค มีเอาต์พุต Dual Connect ที่นำเสนอนำเสนอการเชื่อมต่อทั้ง XLR และ USB เพื่อเพิ่มคล่องตัวในการใช้งาน และมี “unclippable” เอาต์พุตดิจิทัลแบบ float 32-bit ซึ่งเป็นตัวแรกของโลก รวมถึงการประมวลผลสัญญาณดิจิตอลขั้นสูง และอื่นๆ ทั้งหมดนี้ยังให้ลักษณะเสียงที่นุ่มนวล สัญญาณรบกวนต่ำ SPL สูง โดยรวม NT1 5th เป็นอุปกรณ์สำหรับสตูดิโอที่มีความสามารถเหนือชั้นในทุกด้านตั้งแต่เสียงร้องและเสียงพูด ไปจนถึงกีตาร์ เปียโน กลองและเพอร์คัสชั่น

ไมโครโฟนสตูดิโออันเป็นเอกลักษณ์

NT1 รุ่นที่ 5 เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของ NT1 เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2534 เป็นไมโครโฟนสตูดิโอที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก มีชื่อเสียงในด้านเสียงที่อบอุ่น คลาสสิก และความอเนกประสงค์ NT1 เจนเนอเรชั่นที่ 5 นำเสนอคุณสมบัติล้ำสมัยในขณะที่รักษาคุณภาพเสียงระดับตำนาน ซึ่งทำให้ไมโครโฟนรุ่นดั้งเดิมกลายเป็นไมโครโฟนสำหรับนักสร้างสรรค์จำนวนนับไม่ถ้วน

การเชื่อมต่อ Game-changing

ด้วยเอาต์พุต Dual Connect ที่ล้ำสมัยของ RØDE ทำให้ NT1 สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เฟซเสียงหรือมิกเซอร์ผ่าน XLR หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์โดยตรงผ่าน USB สำหรับการบันทึกแบบปลั๊กแอนด์เพลย์ระดับสตูดิโอ

เสียงคลาสสิก

ให้ลักษณะเสียงที่นุ่มนวล เสียงรบกวนต่ำมาก และความสามารถในการจัดการ SPL สูงแบบเดียวกับต้นฉบับ ด้วยวงจรที่ได้รับการปรับปรุงให้มีเสียงรบกวนต่ำลง – 4dBA ที่ต่ำอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้เป็นคอนเดนเซอร์สตูดิโอที่เงียบที่สุดในโลก เมื่อใช้เอาต์พุต XLR จะให้เสียงคอนเดนเซอร์สตูดิโอคลาสสิก และเมื่อใช้เอาต์พุตดิจิตอลจะได้เสียงแบบเดียวกัน พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย เพื่อปรับปรุงเสียงให้ดียิ่งขึ้น สำหรับการบันทึกเสียงระดับโปรสตูดิโอลงในคอมพิวเตอร์โดยตรง

สตูดิโอดิจิทัลแห่งอนาคต

มีอินเทอร์เฟซเสียงระดับมืออาชีพในตัว ซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะสม เพื่อรักษาความเที่ยงตรงของเสียงดั้งเดิม และยังมีคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมขั้นสูงมากมายสำหรับเสียงที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงเสียงรบกวนต่ำเป็นพิเศษ, high-gain Revolution Preamp, การแปลง A/D ความละเอียดสูง (192kHz) และการประมวลผลสัญญาณดิจิตอลขั้นสูง

ไมโครโฟน “Unclippable”

มีเอาต์พุต 32-bit float digital ตัวแรกของโลก เป็นรูปแบบการบันทึกที่ปฏิวัติวงการซึ่งช่วยให้คุณบันทึกได้ทุกอย่างตั้งแต่เสียงกระซิบไปจนถึงเสียงกรีดร้อง กีตาร์ที่เบาที่สุดไปจนถึงมือกลองที่ดังที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการตั้งค่าเกน ไดนามิกทั้งหมดจะยังคงอยู่ โดยไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของความผิดเพี้ยน

ความอเนกประสงค์ที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยการตอบสนองความถี่ที่ราบรื่น สัญญาณรบกวนต่ำมาก การจัดการ SPL สูง ตัวเลือกการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น และความสามารถด้านดิจิตอลอันทรงพลัง มอบความสามารถรอบด้านที่ไม่เหมือนไมค์สตูดิโออื่นๆ เป็นเลิศในแอปพลิเคชันการบันทึกเสียง ตั้งแต่เสียงร้องและเสียงพูดไปจนถึงกีตาร์ กลองไปจนถึงเปียโน และสามารถเข้ากับเวิร์กโฟลว์ใด ๆ ตั้งแต่การตั้งค่าการบันทึกเสียงในห้องนอนเดี่ยวไปจนถึงสตูดิโอระดับมืออาชีพ

สร้างเสียงของคุณ

สร้างเสียงการประมวลผลเสียง APHEX ขั้นสูง ซึ่งขับเคลื่อนโดย DSP ในตัว มาพร้อม pop filter, compression, high-pass filter, noise gate, APHEX® Aural Exciter และ Big Bottom ให้เข้ากับเสียงของคุณอย่างง่ายดาย โดยใช้แอพเสริม RØDE Connect และ RØDE Central (ฟรี) เรียกเสียงที่สมบูรณ์แบบด้วยการสัมผัสปุ่มโดยใช้ตัวแก้ไข VoxLab™ ที่ใช้งานง่าย หรือปรับแต่งโปรเซสเซอร์แต่ละตัวอย่างละเอียดโดยใช้ตัวแก้ไขขั้นสูง

ส่วนประกอบระดับพรีเมียม

ผลิตจากส่วนประกอบระดับพรีเมียม สร้างขึ้นด้วยมาตรฐานสูงสุดในโรงงานผลิตที่ทันสมัยของ RØDE ในซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย รวมถึงแคปซูล HF6 เพื่อให้มีความคลาดเคลื่อนต่ำกว่าไมครอน เพื่อให้มั่นใจว่าโทนเสียงและการตอบสนองความถี่มีความสม่ำเสมอสูงสุด และติดตั้งกันกระแทกภายในเพื่อลดการสั่นสะเทือนจากภายนอก ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมที่ทนทานและมีสีดำหรือสีเงินพร้อมผิวเคลือบคุณภาพสูงที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน

เริ่มใช้งาน

มาพร้อมกับทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเริ่มการบันทึกในกล่อง รวมถึงตัวยึดกันกระแทกระดับสตูดิโอและตัวกันลม สำหรับลดเสียงที่ไม่ต้องการในการบันทึกเสียงที่เกิดจากการกระแทก สาย XLR ระดับพรีเมียมพร้อมขั้วต่อ Neutrik® และ สาย Canare และสาย USB-C คุณภาพสูง