ในปี 2024 ถ้าจะเลือกใช้ไมโครโฟนสักตัว 70 เปอเซ็นต์ ของคนส่วนมากคงเลือกใช้ ไมค์ลอย กันเป็นตัวเลือกแรกๆ ด้วยความยืดหยุ่นในการใช้งาน ที่ไม่จำเป็นต้องมายึดโยงอยู่กับสายไฟ แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่า

” แล้วทำไมถึงยังมีคนที่เลือกใช้ไมค์สายกันอยู่? “

โดยสาเหตุหลักๆ ที่ยังมีคนเลือกใช้ไมค์สายกันอยู่ ก็เพราะว่ามัน เจ๋ง และมันดู OG(Original) กว่า ซึ่งสิ่งที่ทำให้ไมค์สายโดดเด่นกว่าไมค์ลอยหลักๆ เลยคือ ความง่าย ในการเชื่อมต่อใช้งาน และมี สัญญาณรบกวนน้อยกว่า

อย่างที่เราๆ รู้กันว่าอุปสรรคในการใช้งานไมค์ลอย นั่นคือ สัญญาณรบกวน ยิ่งใช้ไมค์ลอยในระยะที่ไกลมากแค่ไหน ก็ยิ่งเสี่ยงต่อการโดนรบกวนมากเท่านั้น โดยปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับไมค์สายเลย เพราะสัญญาณเสียงจะถูกส่งผ่านทาง สายไฟ ที่มีการหุ้มด้วยชนวนที่ป้องกันสัญญาณรบกวน

ปล. อีกจุดแตกต่างหลักๆ ของไมค์ลอย และไมค์สาย คือ ไมค์ลอยจะมีราคาที่แพงกว่าไมค์สายเสมอ เช่น หากซื้อไมค์สาย ราคา 3,000 บาท มาเทียบกับไมค์ลอย ราคา 3,000 บาท ทีมงานค่อนข้างมั่นใจว่า ไมค์สาย ราคา 3,000 บาท จะให้คุณภาพเสียง และงานประกอบที่ดีกว่าไมค์ลอยแน่นอนครับ

ในใบสเปคของไมโครโฟนนั้นก็จะเต็มไป ค่านู่น ค่านี่ เยอะแยะไปหมด แล้วค่าไหนบ้างที่เราจำเป็นต้องดูหากอยากจะซื้อไมโครโฟนดีดีสักตัว วันนี้ผมจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกซื้อไมโครโฟนให้กับเพื่อนๆ แบบสั้นๆ กระชับ และเข้าใจง่ายตามสไตล์ของ SoundDD.Shop

โดยการเลือกซื้อ ไมค์สายให้ได้อย่างโปร จะมีอยู่ 3 อย่างที่คุณ จำเป็นต้องรู้ ที่จะช่วยให้การเลือกซื้อไมโครโฟนของเพื่อนๆ ตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ดังนี้ครับ

1. ชนิดของไมโครโฟน (Microphone Type)

---

โดยชนิดของไมโครโฟน ก็จะถูกแบ่งแยกย่อยหลากหลายแบบ ตาม เทคโนโลยีที่ไมโครโฟนใช้ในการแปลงเสียง ของเราให้กลายเป็นคลื่นเสียงที่อยู่ในรูปแบบของกระแสไฟฟ้า เพื่อไม่ให้บทความนี้ยาวจนเกินไป ผมจะหยิบยกมาแค่ 2 แบบ ที่เราจะพบเห็นกันได้มากที่สุดในปัจจุบัน

• ไมโครโฟน Dynamic

ไมค์สายที่รับเสียงภายนอกและแปลงสัญญาณเสียงเหล่านั้นให้กลายเป็น คลื่นเสียง (Sound Wave) ที่อยู่ในรูปแบบของคลื่นไฟฟ้า ผ่านทางสนามแม่เหล็กขนาดเล็ก ที่อยู่บริเวณหัวไมค์ โดยมีข้อดีคือ เสียงที่ได้จะค่อนข้างเป็นธรรมชาติ และมีเสียงรบกวนน้อย เหมาะกับการใช้งานประเภท งานพูด, ร้องเพลง และอื่นๆ

• ไมโครโฟน Condense

เป็นไมค์สายที่รับเสียงภายนอกและแปลงสัญญาณเสียงผ่าน แผ่นโลหะ ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน โดยข้อดีของ ไมโครโฟน Condenser คือ มีความไวในการรับเสียงมาก เสียงที่ได้จะมีความสว่าง และใสกว่าปกติ เหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องบันทึกเสียง โดยไมโครโฟน Condenser จะมีข้อจำกัดคือ ตัวไมโครโฟน จำเป็น ต้องมีไฟเลี้ยงเพื่อที่จะใช้งาน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ชนิดของไมค์ลอย

2. รูปแบบการรับเสียง (Polar-Pattern)

---

รูปแบบการรับเสียง หรือ Polar Pattern คือ รูปแบบที่จะบอกว่าไมค์ลอยตัวนั้นๆ มี รัศมีในการรับเสียง เป็นรูปทรงแบบไหน โดยจะมีหลากหลายรูปแบบมากๆ แต่ผมจะหยิบมาเฉพาะรูปแบบการรับเสียงที่ยังคงได้รับความนิยมกันอยู่ในปัจจุบันหลักๆ มา 4 แบบ ดังนี้ครับ

3. การตอบสนองต่อช่วงความถี่

---

ไมโครโฟนแต่ละตัวจะมีความสามารถในการตอบสนองต่อย่านความถี่ที่แตกต่างกันไป โดยไมโครโฟนที่ตอบสนองช่วงความถี่ 50Hz – 15kHz ก็นับเป็นไมโครโฟนที่ดี ถ้าตอบสนองในช่วง 40Hz – 18kHz ก็ถือว่าดีมาก และถ้าเป็นไมโครโฟนที่ตอบสนองช่วงความถี่ 20Hz – 20kHz ก็จัดเป็นไมโครโฟนที่สุดยอดไปเลย

แต่ในความเป็นจริง เราไม่จำเป็นต้องใช้ ไมโครโฟน ที่ตอบสนองความถี่ได้กว้างขนาดนั้น เนื่องจากเสียงแต่ละอย่าง ก็จะมีความถี่ในแต่ละย่านไม่เหมือนกัน เพียงแค่เลือก ไมโครโฟนที่ตอบสนองต่อ ย่านความถี่ที่เหมาะสม กับแต่ละงานก็เพียงพอแล้วครับ

ไม่มีไมค์สายตัวไหนที่จะเหมาะกับการเริ่มต้นของคุณมากเท่ากับ SM58 อีกแล้ว ไมโครโฟนระดับตำนาน ที่ได้รับการยอมรับจาก นักดนตรี มากมายว่าเป็นไมโครโฟนที่ให้เสียงดี เป็นธรรมชาติ โดยเป็นไมโครโฟนที่อยู่ในระดับ มืออาชีพ (Professional Level) ที่เปิดตัวออกมาให้เราจับจองกันตั้งแต่ปี 1966! เรียกว่า

“เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ”

ใช่แล้วครับเพื่อนๆ อ่านไม่ผิด Shure SM58 อยู่กับวงการเครื่องเสียงมานานเกือบ 60 ปี โดยได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน การันตีจากทีมงานเลยว่านี่คือ 1 ใน ไมค์สาย ระดับตำนานอย่างแท้จริง 

โดย SM นั้นจะย่อมาจาก Studio Microphone หรือก็คือ ไมโครโฟนสำหรับสตูดิโอ และเลข 58 จะเป็นเลขรุ่น ส่วน LC จะมีความหมายว่าไมโครโฟนตัวนั้น ขายเฉพาะไมโครโฟน ไม่มีสาย XLR แถมมาให้ด้วยนั้นเองครับ

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	50 Hz – 15 kHz

แม้จะอยู่มานานกว่า 60 ปี แต่ทุกวันนี้เพื่อนๆ ก็สามารถพบเห็น SHURE SM58-LC ได้แทบทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น สตูดิโอขนาดเล็ก-ใหญ่ทั่วโลก หรือจะเป็นบนเวทีคอนเสิร์ต ก็ยังคงพบเห็นกันอยู่เป็นประจำ เรื่องของคุณภาพเสียงไม่ต้องพูดถึง ตัวไมโครโฟนจะเป็นไมโครโฟนแบบ Dynamic ที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Cardioid ช่วยให้การรับเสียงร้องทำได้อย่างยอดเยี่ยม และยังช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อีกด้วย

คุณภาพของวัสดุอุปกรณ์นั้นต้องบอกว่ามัน “แข็งแกร่งเกินไป” เพื่อนๆ สามารถวางไมค์สาย SHURE SM58 ไว้ที่ถนน แล้วขับรถบรรทุกทับเล่นได้เลย ไมโครโฟนเขาแข็งแกร่งระดับนั้นเลยครับ (ถ้าไม่เชื่อลองดูวิดีโอด้านล่างได้ครับ)

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย SHURE SM58-LC

• SHURE SM58-LC ไมค์สำหรับร้อง/พูด ฿7,700 ฿4,390 (รวม VAT 7% แล้ว)

ถ้าจะถามหาแบรนด์ผู้ผลิตไมโครโฟนซักแบรนด์ ที่พร้อมชนกับ Shure แบบสูสี และสามารถเอาชนะได้ในบางรุ่น ชื่อของแบรนด์นั้นคือ Sennheiser แบรนด์ไมโครโฟนสัญชาติเยอรมัน ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1945 หลังจากจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เพียง 1 เดือน

ไมค์สายร้อง/พูด ยอดนิยมสำหรับการแสดงสด

ไมค์สาย Sennheiser e945 ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักร้องโดยเฉพาะ ตัวไมโครโฟนเป็นไมโครโฟน Dynamic ที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Super-Cardioid ให้เสียงที่นุมนวล และยังช่วยลดเสียงรบกวนจาก อุปกรณ์ทุกสิ่งอย่าง บนเวที ตัวแคปซูลรับเสียง เป็นแคปซูลแบบกันกระแทก (Shock-Mounted) ช่วยลดเสียงรบกวนจากการเคลื่อนที่ หรือการขยับไมโครโฟนไปมาขณะที่ใช้งาน

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Super-Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	40 Hz – 18 kHz

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของ Sennheiser e945 ที่ Built-In มาพร้อมกับไมค์ ที่ทาง Sennheiser เรียกมันว่า “Hum Compensating” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า ที่จะทำให้เกิดเสียง ฮัม อันเปรียบเสมือนฝันร้ายของศิลปินแทบทุกคน

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Sennheiser e945

• SENNHEISER e945 ไมค์สำหรับร้อง/พูด ฿8,690 (รวม VAT 7% แล้ว)

คำถามแรกที่ต้องถามเลยคือ e945 และ e845 แตกต่างกันยังไง? ในความเป็นจริง มันอยู่ที่ความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละคน แต่โดยส่วนมากแล้ว Sennheiser e845 มักจะได้รับความนิยมในหมู่นักร้องผู้หญิง เนื่องจากโน้ตเสียงสูงของ e845 จะมีโทนเสียงที่สว่าง และแหลมกว่า e945 ซึ่งจะช่วยส่งเสริมเนื้อเสียงของ นักร้องผู้หญิง ให้มีความสดใสขึ้นไปอีก

ไมค์สายร้อง/พูด ที่ดีที่สุดสำหรับนักร้องผู้หญิง

Sennheiser e845 เป็นไมโครโฟนแบบ Dynamic ที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Super-Cardioid ที่ให้เสียงเต็มช่วง (Full Dynamic Range) โทนเสียงที่ได้จะค่อนข้างอบอุ่น สว่าง และใส สามารถรับเสียงที่มีความดังสูงสุด (SPL) ที่ 150 dB นอกจากนี้ยังมี Proximity Response ที่ช่วยลดปัญหาการเกิด Proximity Effect ขณะใช้งานได้อีกด้วย

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Super-Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	40 Hz – 16 kHz

วัสดุของ e845 ผลิตจากโลหะทั้งหมด มั่นใจได้เลยว่า แข็งแรง ทนทานแน่นอน แคปซูลรับเสียง จะเป็นแบบกันกระแทก (Shock-Mounted) เพื่อลดเสียงรบกวน เวลาขยับตัวในระหว่างการใช้งาน

นี่คือไมโครโฟนประสิทธิภาพสูง ที่มีฟีเจอร์และคุณภาพ ใกล้เคียงกับลูกพี่ลูกน้อง e945 โดยจะมีความแตกต่างสำคัญเลยคือ ราคาค่าตัว โดย e845 จะมาในราคาที่ถูกกว่ารุ่นพี่อยู่ครึ่งนึง จัดเป็น 1 ในไมค์สายที่เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมครับ

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Sennheiser e845

• SENNHEISER e845 ไมค์สำหรับร้อง/พูด ฿4,390 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไม่ต้องแปลกใจถ้าคุณเห็นนักร้องหลายคนเลือกใช้ ไมค์สาย Shure Beta 58A เพราะมันคือไมค์ Dynamic ที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Super-Cardioid ที่ตอบสนองความถี่ได้ถึง 50Hz – 16kHz เป็นไมโครโฟนที่รับเสียงร้องได้ดี โดยมีจุดเด่นคือการส่งเสริมให้เสียงกลางมีความโดดเด่นออกมาจากเสียงต่ำและเสียงสูงอย่างชัดเจน 

ไมค์สายร้อง/พูด ที่คุ้มค่า คุ้มราคา ที่สุด

เป็นไมโครโฟนที่จะมีการบูสต์เสียงในช่วงความถี่ 4kHz และ 9kHz ด้วยความที่เป็นไมโครโฟนที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Super-Cardioid ช่วยให้การรับเสียงทำได้อย่างยอดเยี่ยม และช่วยลดการรบกวนจากสภาพแวดล้อมรอบๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่ช่วยลดเสียง Bass ส่วนเกิน เพื่อลดปัญหาในการเกิด Proximity Effect อีกด้วยครับ

ในส่วนของแคปซูลรับเสียงจะเป็นแคปซูลรับเสียง Dynamic แบบ Neodymium ช่วยให้ อัตราส่วนเสียงรบกวน ต่อ สัญญาณ สูง (High Signal-to-Noise Ratio) มีป๊อบทรงกลม ช่วยกรอง และป้องกันเสียงรบกวนจากลม

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Super-Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	50 Hz – 16 kHz

Shure Beta 58A เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจาก SM-58 โดยตรง โดยจะมีการเปลี่ยนรูปร่าง และรูปแบบการรับเสียงมาเป็น Super-Cardioid การันตีเรื่องงานประกอบ และความแข็งแรงได้เช่นเคย ด้วยวัสดุตัวเครื่องที่เป็นโลหะ และตะแกรงครอบก็เป็นโลหะอีกเช่นกัน

ให้คุณภาพเสียงที่ดี และงานประกอบที่ละเอียดตามสไตล์ Shure ในราคาที่จับต้องได้ง่าย Shure Beta 58A เป็น 1 ใน ไมค์สายที่คุณไม่ควรพลาดอีกตัวครับ

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Shure Beta 58A

• SHURE BETA 58A ไมค์สำหรับร้อง/พูด ฿11,600 ฿6,990 (รวม VAT 7% แล้ว)

มาถึงอีก 1 ตังตึงจาก Audio-Technica แบรนด์เครื่องเสียงสัญชาติ ญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 ซึ่งในปีนี้ก็อายุ 60 ปีเต็มพอดี โดยส่วนตัวทีมงานมองว่าสินค้าจากทางแบรนด์ค่อนข้าง จะถูกประเมินไว้ต่ำกว่ามาตรฐานจริงๆ ที่ควรจะเป็น แต่มันจะไม่เป็นแบบนั้นในรีวิวนี้ครับ

อีก 1 ไมค์สายตัวตึง! สัญชาติญี่ปุ่น

โดย AE ของทางแบรนด์ นั้นจะย่อมาจากคำว่า Artist Elite เปรียบเสมือนเป็นไมโครโฟน ที่นักดนตรีชั้นนำ เลือกใช้ นั่นเองครับ วัสดุและงานประกอบ ทำได้อย่างเนี้ยบสมราคา บอกเลยว่าตัวจริงอย่างเฟี้ยว ดูดุดัน ไม่เกรงใจใครจริงๆ

ด้านในไมโครโฟนจะบุด้วยชั้นโฟม เพื่อป้องกันเสียงลม เสียงรบกวนภายนอกได้ดีในระดับนึง แต่หากต้องใช้งานในสตูดิโอก็ยังควรที่จะต้องมี Pop Filter เสริมเข้ามาอยู่ดี แต่หากเป็นการใช้งานภายนอกทั่วไป แค่ไมโครโฟนตัวเดียวเพียวๆ ก็เอาอยู่แล้วครับ พร้อมลุยแบบสมบุกสมบันไปกับคุณได้ทุกสถานที่

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Hyper-Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	60 Hz – 15 kHz

เป็นไมโครโฟนสำหรับการแสดงสด ที่คุณไม่ควรพลาดอีก 1 ตัว เป็นไมค์สายที่จะให้เสียงที่อยู่ในโทนอุ่น ลักษณะเสียงที่ได้จะค่อนข้างนุ่มนวลกลมกล่อม 1 ในตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดหากกำลังมองหาไมค์สายดีดีซักตัว ด้วยราคาและคุณภาพที่ดู คุ้มค่า คุ้มราคาไม่น้อยเลยครับ

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Audio-Technica AE6100

• AUDIO TECHNICA AE6100 ไมโครโฟน ร้อง/พูด แบบไดนามิก ฿7,918 (รวม VAT 7% แล้ว)

Soundvision เป็นแบรนด์เครื่องเสียง สัญชาติไทย ที่ปล่อยสินค้าออกมาเพื่อเจาะตลาด ผู้ใช้งานระดับ มืออาชีพ (Professional Use) โดยจุดเด่นของทางแบรนด์ที่ทีมงานสัมผัสได้ในสินค้าแทบทุกตัวของทางแบรนด์เลย คือ คุณภาพของสินค้า ที่เทียบกับแบรนด์ชั้นนำ ได้สบายๆ แต่จะมาในราคาค่าตัวที่ค่อนข้างเป็นมิตรมากกว่า

ไมค์สาย ร้อง/พูด ที่อเนกประสงค์ที่สุด

โดย ไมค์สาย Soundvision DM-89 จัดเป็น 1 ในไมค์สายที่ขายดีที่สุดของทางเว็บ SoundDD.Shop เลย ตัวไมโครโฟนจะเป็นไมโครโฟน Dynamic ที่มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Cardioid ตอบสนองความถี่ได้กว้างถึง 40Hz – 16kHz เสียงที่ได้จาก DM-89 ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติ คม ชัด มีโทนเสียงที่ค่อนข้างสมดุลย์ ไม่มีเสียง กลาง หรือเสียงสูงที่โดดเด่นออกมาจากโทนเสียงอื่นๆ

ในส่วนของงานประกอบ ทางแบรนด์เลือกใช้วัสดุที่ค่อนข้างพรีเมี่ยม งานประกอบจัดว่าเนี้ยบมาก เมื่อเทียบกับแบรนด์ไทยแบรนด์อื่นในตลาด รูปทรงของไมโครโฟนผ่านการออกแบบมาอย่างดี สวยงาม ถือและจับได้อย่างถนัดมือ นอกจากนี้ยังมีสวิตซ์เปิด/ปิด ซึ่งเป็นสวิตซ์แบบ Magnetic Lock

ชนิดของไมค์สาย	Dynamic
รูปแบบการรับเสียง	Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	40 Hz – 16 kHz

เหมาะกับการใช้งานบนเวที, งานพูด/บรรยาย และใช้ร้องคาราโอเกะได้อย่างลงตัว โดย Soundvision DM-89 จะเป็นไมโครโฟนที่มีราคาย่อมเยาว์ที่สุดในบทความนี้ และเป็นไมค์สาย แบรนด์ไทยแบรนด์เดียวที่ทีมงานเลือกมาอยู่ร่วมกับแบรนด์ดังๆ ถ้าของเขาไม่ดีจริง คงไม่มีสิทธิ์หลุดเข้ามาติดอันดับได้แน่นอน ด้วยราคาและคุณภาพที่ได้ DM-89 เป็น 1 ในไมค์สายที่ทีมงานไม่อยากให้เพื่อนๆ พลาดจริงๆ ครับ

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Soundvision DM-89

• SOUNDVISION DM-89 ไมโครโฟนคุณภาพสูง สำหรับร้องคาราโอเกะ ฿2,590 ฿1,490 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมค์สาย ร้อง/พูด Condenser ที่ดีที่สุด

กลับมาที่แบรนด์ยอดฮิตอย่าง Shure กันอีกครั้ง โดยนี่จะเป็นไมโครโฟนตัวสุดท้ายที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้ โดย Beta 87A เป็น ไมโครโฟน ที่เราควรดูเป็นตัวอย่างว่า ไมค์สายที่ดีควรมีลักษณะแบบไหน นอกจากคุณภาพเสียงที่ดีแล้ว วัสดุและงานประกอบต้องเนี้ยบ ต้องทนต่อการใช้งานหนัก Shure Beta 87A ได้รวมเอาทุกอย่างที่ไมค์สายที่ดีควรจะมีมาไว้ในตัว!

Shure Beta 87A จะเป็นไมโครโฟนแบบ Condenser เพียงตัวเดียวในบทความนี้ มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Super-Cardioid นั่นหมายความว่าเสียงที่ได้จาก Beta 87A จะถ่ายทอดอารมณ์ และรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างครบถ้วน ชัด ใส และใช่ครับ มันจำเป็นต้องใช้ Phantom Power ตามสไตล์ของไมโครโฟนแบบ Condenser

อเนกประสงค์ และตอบโจทย์การใช้งานแทบทุกรูปแบบ

หนึ่งในสิ่งที่น่าประทับใจมากของ Shure Beta 87A คือตัวไมโครโฟนไม่เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งานแค่การแสดงสด หรือ บันทึกเสียง แต่มันกลับตอบโจทย์การใช้งานได้ดีในแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น งานพูด/บรรยาย, ร้องเพลง, บันทึกเสียง และอื่นๆ อีกมากมาย

ชนิดของไมค์สาย	Condenser
รูปแบบการรับเสียง	Super-Cardioid
ตอบสนองช่วงความถี่	50 Hz – 20 kHz

โดย 1 ในปัญหาที่ทุกคนมักจะพบเวลาเลือกใช้ไมค์ Condenser คือไมโครโฟนมีความไวในการรับเสียงที่สูงมาก จึงทำให้มีเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆ หลงเข้ามาในไมค์ได้ง่าย ทางแบรนด์จึงเลือกใช้รูปแบบการรับเสียงเป็น Super-Cardioid ที่ช่วยให้จุดโฟกัสในการรับเสียงของไมค์มีความแคบ เพื่อลดปัญหาในการรับเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆ นั่นเองครับ

ไมค์สาย Shure Beta 87A ตอบสนองช่วงความถี่ 50Hz – 20kHz เรียกว่าตอบสนองความถี่คลอบคลุมการได้ยินของหูมนุษย์ทั้งหมด เป็นอีก 1 ไมค์สาย ที่ยอดเยี่ยม จากแบรนด์ผู้ผลิตไมโครโฟนชั้นนำ แต่ราคาค่าตัวก็แรงไม่เบาเช่นกันครับ

ดูข้อมูลสินค้า ไมค์สาย Shure Beta 87A

• SHURE BETA 87A ไมค์สำหรับร้อง/พูด ฿17,800 ฿10,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

สรุป

---

ไมค์สายแต่ละตัวก็มีจุดเด่น และข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ก่อนอื่นให้เพื่อนๆ ดูความต้องการใช้งานของเพื่อนๆ ให้ดีก่อน ว่าจะใช้ร้องเพลง หรือใช้ในงานพูด แล้วจึงเลือก ไมค์สาย ให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด โดยแต่ละตัวก็จะมีเอกลักษณ์เสียงที่แตกต่างกันอีก แนะนำว่าซื้อให้ครบทุกตัวไปเลยครับ ง่ายสุด หวังว่าบทความ ” 7 อันดับ ไมค์สาย ยอดนิยม ปี 2024 ยี่ห้อใด รุ่นไหนดี? ” จะมีประโยชน์ในการเลือกซื้อไมค์สายของเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย

หากเพื่อนๆ กำลังมองหาไมค์สายดีดีซักตัวแต่ยังตัดสินใจไม่ถูก สามารถทักหรือโทรเข้ามาสอบถาม SoundDD.Shop ได้เลย ทางเรายินดีให้คำปรึกษา และแนะนำฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ ~

ขอบคุณข้อมูลสินค้าจาก Shure, Sennheiser, Audio-Technica และ SoundVision