ชาแนลที่ 1-8 เริ่มจากด้านบนลงมาครับ
ช่องไมค์ แจ๊คแบบ XLR เหมาะสำหรับใช้ไมโครโฟนมาเสียบอินพุทเข้า
ช่องถัดลงมา ช่อง Line เหมาะสำหรับนำเครื่องดนตรี เครื่องกำเนิดเสียงต่างๆเช่น ดีวีดี ซีดี โน๊ตบุ๊ค เป็นต้น แจ๊คแบบ TS 6.3 mm (หรือ โฟนโมโน)
ช่องถัดลงมา ช่อง Insert ช่องนี้สำหรับนำเครื่องปรับแต่งเสียงแต่ละชาแนล เช่นนำ เครื่องมัลติเอฟเฟค หรือเครื่องโปรเซสเซอร์อื่นๆ มาปรับแต่งเฉพาะชาแนลนั้นๆ ผลที่ได้ก็คือ จะได้คุณภาพเสียงเฉพาะส่วนตัวในชาแนลนั้นๆ แจ็คจะเป็นแบบ TRS 6.3 mm.
ปุ่มถัดลงมา ปุ่มสีแดง GIAN ปุ่มนี้สำหรับปรับสัญญาณขาเข้าให้เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่มีคุณภาพ ไม่เบาหรือดัง จนแตกพร่า
หากเป็นไมโครโฟนส่วนมากจะหมุนปุ่มนี้ไปที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับความไวของไมโครโฟนด้วยส่วนหนึ่ง
หากเป็นเครื่องดนตรีหรือเครื่องเล่น ดีวีดี ซีดี ก็ให้ปรับลดหลั่นลงมา ต่ำกว่า 12 นาฬิกา เนื่องจากสัญญาณจากเครื่องกำเนิดเสียงเหล่านี้จะมีการขยายสัญญาณในตัวส่วนหนึ่ง หากปรับแรงกว่านี้ ก็จะทำให้สัญญาณเสียงแตกพร่าได้
สี่ปุ่มถัดลงมา (สีดำ) คือปุ่มปรับโทนเสียง ทุ้มกลางแหลม ปุ่มสีขาวคือปุ่มปรับกวาดความถี่เสียงกลางให้เพิ่มประสิทธิภาพอีกที สามารถปรับตามความเหมาะสมและความพอใจ
ปุ่มถัดลงมา ปุ่มสีเขียว AUX 1 out ใช้งานสำหรับปรับเพื่อให้ได้ยินเสียงของตัวเองและเสียงอื่นๆ ในกรณีส่งสัญญาณเสียงออกไปหาลำโพงมอนิเตอร์
ส่วนมาก นักร้อง นักดนตรี ที่ต้องการได้ยินเสียงตัวเอง โดยในมิกเซอร์ก็จะมีช่องต่อออกไปใช้งาน คือ Aux out (ในกรณีไม่ได้ต่อใช้งาน Aux out ปุ่มนี้จะไม่มีผลในการปรับเสียง)
ปุ่มถัดลงมา FX สีม่วงอ่อน สำหรับปรับความดังของเอฟเฟคของแต่ละชาแนล โดยปุ่มนี้จะขึ้นอยู่กับสไลด์เฟดเดอร์ Effects สีม่วง ถ้าปุ่มหรือสไลด์อันใดอันหนึ่งไม่เปิดขึ้นเสียงเอฟเฟคก็จะไม่ออก
ปุ่มสีเหลืองถัดลงมา ปุ่มสำหรับจับมิติซ้ายหรือขวาของดนตรี ปรับไว้ตรงกลาง เสียงจะออกบาลานซ์ ซ้ายและขวาตรงกลาง หากหมุนปุ่มนี้ไปด้านไดด้านหนึ่ง เสียงก็จะถ่ายน้ำหนักไปตามฝั่งที่เราหมุนไป ประโยชน์สำหรับการทำไลท์ซาวด์หรือบันทึกเสียง จะใช้ปุ่มนี้เพื่อบาลานซ์เสียงซ้ายและขวาเพื่อให้มิติดูกว้าง เต็มเวที เสียงจะไม่กระจุกอยู่ตรงกลาง
ปุ่มสี่เหลี่ยมสีขาว PFL ของแต่ละช่อง กดปุ่มนี้เพื่อเช็คสัญญาณเสียงเราสามารถรับฟังสัญญาณเสียงที่เราต้องการ ผ่านช่องหูฟัง (ที่มีรูปหูฟัง)โดยการเสียบหูฟัง ก่อนจะปล่อยเสียงออกลำโพงหลัก
ปุ่มสี่เหลี่ยมสีแดง Mute กดปุ่มนี้เพื่อต้องการหยุดเล่นชั่วคราว ของแต่ละช่อง เมื่อกดปุ่มนี้สัญญาณเสียง เช่นไมค์ที่กำลังพูดอยู่ ก็หยุดการทำงานเป็นต้น
ถัดลงมาคือ วอลลุ่มสไลด์เฟดเดอร์ เลื่อนขึ้นความดังเสียงจะเพิ่มขึ้นลดลงความดังจะลดลง ซึ่งชาแนลที่ 1-8 จะเป็นสีขาว
ส่วนสีน้ำเงิน จะเป็นวอลลุ่มสไลด์ความดังของ STE1 และ STE2 (ย่อมาจากช่องสเตอริโอ 1 และ 2 นั่นเองครับ) ช่องนี้ไว้รองรับ แหล่งกำเนิดเสียงเช่น เครื่องเล่น ดีวีดี ซีดี คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค เป็นต้น
สีม่วงคือวอลลุ่มสไลด์ควบคุมความดังเอฟเฟคในเครื่องนี้ ทำงานเป็นมาสเตอร์เอฟเฟค โดยแต่ละช่องหรือชาแนลจะมีปุ่มสีม่วงอยู่ การทำงานจะต้องเลื่อนสไลด์หรือหมุนวอลลุ่มในแต่ละช่องที่ต้องการขึ้น ตามความต้องการเสียง เอฟเฟค เอคโค่
วอลลุ่มสไลด์ต่อมาสีเหลือง 2 อัน อันนี้คือ มาสเตอร์วอลลุ่มควบคุมความดังทั้งระบบ หากวอลลุ่มสีเหลืองนี้ไม่ถูกสไลด์ขึ้น นั่นแสดงว่าวอลลุ่มช่องอื่นก็จะไม่มีผลในการลดหรือเพิ่มเสียง การใช้งานคือดันสไลด์มาสเตอร์นี้ ไปที่ 0 dB (เลข 0 )