Estimated reading time: 5 นาที
USB-C และ Thunderbolt เป็นสองมาตรฐานการเชื่อมต่อที่ได้รับความนิยมในวงการเทคโนโลยี แม้ว่าทั้งคู่จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างที่สำคัญที่มีผลต่อใช้งานและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ต ในบทความนี้ เราจะนำเสนอข้อมูลให้คุณเข้าใจถึงคุณสมบัติและความสามารถเฉพาะตัวของ USB-C และ Thunderbolt เพื่อการเลือกใช้งานที่เหมาะสม พร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยครับ
USB-C กับ Thunderbolt แตกต่างกันอย่างไร ภายในบทความ
วิวัฒนาการของ USB
เทคโนโลยี USB (Universal Serial Bus) ก้าวหน้าไปมากตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในช่วงกลางทศวรรษ 1990 โดยเริ่มต้นจากวิธีง่ายๆ ในการเชื่อมต่อคีย์บอร์ด, เม้าส์, ปริ้นเตอร์เข้ากับคอมพิวเตอร์ และได้พัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลากหลายประเภท การเปิดตัว USB 2.0 ในปี 2000 ทำให้การถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้น
ในขณะที่ USB 3.0 ซึ่งเปิดตัวในปี 2008 ก็มีการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยความเร็วที่สูงขึ้นไปอีก ด้วยความต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น USB-C จึงเปิดตัวในปี 2014 ในฐานะเทคโนโลยี USB เจเนอเรชั่นใหม่ USB-C เป็นขั้วต่อแบบเสียบกลับด้านได้ ซึ่งต่างจากรุ่นก่อน หมายความว่าคุณสามารถเสียบด้วยวิธีใดวิธีหนึ่งก็ได้ ทำให้ USB-C เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอุปกรณ์จำนวนมาก
USB-C คืออะไร?
USB-C คือตัวเชื่อมต่อและชาร์จอุปกรณ์ มีรูปทรงเป็นวงรีขนาดเล็กที่สามารถพบได้บนอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป และคอนโซลเกม ข้อดีของ USB-C ก็คือความสามารถรอบด้านในการรองรับโปรโตคอลต่างๆ รวมถึง USB 3.1, Thunderbolt 3 และ DisplayPort ช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การจ่ายพลังงาน และเอาต์พุตวิดีโอ
สาย USB-C สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 10 Gbps ซึ่งเร็วกว่า USB 3.0 ถึงสองเท่าซึ่งหมายความว่าคุณสามารถถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ได้ภายในไม่กี่วินาที รวมถึงการสตรีมและการเล่นเกมที่ปราศจากความล่าช้าหรือดีเลย์ นอกจากนี้ สาย USB-C ยังสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 100 วัตต์ ทำให้สามารถชาร์จแล็ปท็อป แท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการพลังงานสูงได้
ข้อดีอีกอย่างของ USB-C ก็คือสามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน USB รุ่นเก่าได้ ทำให้สามารถใช้อุปกรณ์ USB-C กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงรุ่นเก่าได้ โดยใช้อะแดปเตอร์หรือดองเกิล แต่ต้องทราบไว้ว่าสายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพเท่ากันทั้งหมด บางตัวอาจรองรับเฉพาะความเร็ว USB 2.0 หรือมีความสามารถในการจ่ายพลังงานที่จำกัด เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุด การลงทุนในสายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C คุณภาพสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญ
Thunderbolt คืออะไร?
Thunderbolt คือการยกระดับการเชื่อมต่อไปอีกระดับ ได้รับการพัฒนาโดย Intel ร่วมกับ Apple ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รวมการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การจ่ายพลังงาน และเอาต์พุตวิดีโอไว้ในสายเคเบิลเส้นเดียว ทำให้เป็นมาตรฐานที่หลายๆ รุ่นของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ทำงานในระบบ Mac และ Windows ใช้
สาย Thunderbolt สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 40 Gbps ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้การถ่ายโอนข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการเล่นเกม นอกจากนี้ Thunderbolt ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบ daisy-chaining ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายเครื่องในซีรีย์โดยใช้สายเคเบิลเส้นเดียว หมายความว่าคุณสามารถเชื่อมต่อจอแสดงผล อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ เข้ากับพอร์ต Thunderbolt เดียวบนคอมพิวเตอร์ของคุณได้
หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษของ Thunderbolt คือความสามารถในการเชื่อมต่อกับ external GPUs (Graphics Processing Units) คุณสมบัตินี้ช่วยให้เราสามารถเชื่อมต่อการ์ดกราฟิกเข้ากับแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ผ่านสาย Thunderbolt ทำให้รันแอพพลิเคชั่นและเกมที่ใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งต้องการกราฟิกประสิทธิภาพสูง
ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง USB-C และ Thunderbolt
แม้ว่า USB-C และ Thunderbolt จะใช้ตัวเชื่อมต่อทางกายภาพที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่เป็นจุดสังเกตอยู่ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล สาย USB-C สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 10 Gbps หรือ 20 Gbps สำหรับ USB 3.1 Gen 2 ในทางตรงกันข้าม สาย Thunderbolt สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 40 Gbps ซึ่งหมายความว่า Thunderbolt จะเร็วขึ้นอย่างมากเมื่อต้องถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่หรือใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้ทรัพยากรมาก
อีกหนึ่งความแตกต่างคือความสามารถในการส่งสัญญาณวิดีโอ USB-C รองรับ DisplayPort ซึ่งช่วยให้คุณเชื่อมต่อจอแสดงผล 4K เดียวหรือจอแสดงผล 4K คู่ที่ 60Hz ส่วน Thunderbolt รองรับทั้ง DisplayPort และ PCIe ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อจอแสดงผลหลายจอ รวมถึงจอภาพ 5K และ 6K หรือ external GPUs เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิก
สุดท้ายคือการจ่ายไฟ USB-C สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 100 วัตต์ ทำให้เหมาะสำหรับชาร์จแล็ปท็อปและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องการพลังงานสูง ส่วน Thunderbolt สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 100 วัตต์เมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ แต่ยังสามารถรับพลังงานจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ ทำให้คุณสามารถชาร์จแล็ปท็อปและจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่อพ่วงได้พร้อมกัน
ความเข้าใจผิดทั่วไปเกี่ยวกับ USB-C และ Thunderbolt
มีความเข้าใจผิดหลายอย่างเกี่ยวกับ USB-C และ Thunderbolt ที่อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดคือ USB-C และ Thunderbolt เป็นสิ่งเดียวกัน ความจริงแล้ว แม้ว่า USB-C จะเป็นตัวเชื่อมต่อทางกายภาพ แต่ Thunderbolt ก็เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ตัวเชื่อมต่อ USB-C โดย Thunderbolt นำเสนอคุณสมบัติและความสามารถเพิ่มเติมที่ USB-C เพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้ได้
ความเข้าใจผิดอีกประการหนึ่งคือสายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาเท่าเทียมกันนั้นอาจจะไม่เสมอไป สายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C อาจแตกต่างกันในแง่ของความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล ความสามารถในการจ่ายไฟ และความเข้ากันได้ การลงทุนในสายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C คุณภาพสูงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุด
สุดท้ายคือ บางคนเชื่อว่า Thunderbolt ใช้งานได้กับอุปกรณ์ Apple เท่านั้น แม้ว่า Thunderbolt จะได้รับการพัฒนาในตอนแรกโดย Intel ที่ร่วมมือกับ Apple แต่ขณะนี้ Thunderbolt มีให้บริการบนอุปกรณ์ Windows และ Android หลากหลายรุ่นแล้ว โดย Thunderbolt เป็นมาตรฐานสากลที่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ใดๆ ที่มีพอร์ต Thunderbolt หรือรองรับเทคโนโลยี Thunderbolt
ความเข้ากันได้และการเชื่อมต่อ
USB-C และ Thunderbolt แพร่หลายมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ความเข้ากันได้และการเชื่อมต่อยังคงเป็นข้อกังวล USB-C สามารถใช้งานร่วมกับมาตรฐาน USB รุ่นเก่าได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้อุปกรณ์ USB-C กับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงรุ่นเก่าได้โดยใช้อะแดปเตอร์หรือดองเกิล
ในส่วนของ Thunderbolt ความเข้ากันได้อาจซับซ้อนกว่านี้เล็กน้อย โดย Thunderbolt สร้างขึ้นจากมาตรฐาน USB-C แต่ไม่ใช่อุปกรณ์ USB-C ทั้งหมดที่รองรับ Thunderbolt หากต้องการตรวจสอบว่าอุปกรณ์รองรับ Thunderbolt หรือไม่ ให้มองหาโลโก้ Thunderbolt หรือตรวจสอบข้อมูลสเปคของอุปกรณ์ สาย Thunderbolt ยังเข้ากันได้กับพอร์ต USB-C รุ่นเก่า ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้สาย Thunderbolt กับพอร์ต USB-C ได้ แต่จะไม่ได้รับความเร็วและความสามารถของ Thunderbolt เต็มรูปแบบ
การเลือกอุปกรณ์ USB-C หรือ Thunderbolt ที่เหมาะกับความต้องการ
เนื่องจากมีอุปกรณ์ USB-C และ Thunderbolt มากมายในตลาด การเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับความต้องการอาจเป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยาก ให้พิจารณาปัจจัยบางประการเพื่อการตัดสินใจที่ง่ายขึ้นได้ดังนี้
- วัตถุประสงค์: พิจารณาว่าเราจะใช้อุปกรณ์นี้เพื่ออะไรเป็นหลัก หากต้องการความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วและการรองรับการแสดงผลหลายจอ Thunderbolt เป็นตัวเลือกที่ดี หากมองหาขั้วต่ออเนกประสงค์ที่สามารถรองรับงานต่างๆ ได้ USB-C อาจเหมาะสมกว่า
- ความเข้ากันได้: ตรวจสอบความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ที่มีอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์เข้ากันได้กับคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการ และอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ของเรา
- สเปค: ตรวจสอบสเปคของของอุปกรณ์ รวมถึงความเร็วการถ่ายโอนข้อมูล ความสามารถในการจ่ายพลังงาน และการรองรับเอาต์พุตวิดีโอ เลือกอุปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการเรา
- คุณภาพ: ลงทุนในสายเคเบิลและอุปกรณ์ USB-C หรือ Thunderbolt คุณภาพสูงเพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพและความทนทาสายเคเบิลราคาถูกอาจไม่ให้ความเร็วตามที่ต้องการหรืออาจเสียหายได้
สรุป
ทั้ง USB-C และ Thunderbolt ต่างก็เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อยอดนิยม โดยแต่ละอย่างมีคุณสมบัติและความสามารถเฉพาะตัว USB-C เป็นตัวเชื่อมต่อแบบ all-in-one อเนกประสงค์ที่ช่วยให้ถ่ายโอนข้อมูลและจ่ายพลังงานด้วยความเร็วสูง. Thunderbolt ให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว รองรับการแสดงผลหลายจอ และสามารถเชื่อมต่อกับ external GPU ได้ การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง USB-C และ Thunderbolt ถือเป็นสิ่งสำคัญในโลกดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมและเต็มประสิทธิภาพ
บทความ สาระความรู้
Audio-Technica ATH-M20xWH สีขาวรุ่นใหม่ สุดมินิมอล!
มาแล้ว!! ATH-M20x หูฟังมอนิเเตอร์อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมจาก สุดมินิมอล! ในเวอร์ชันสีขาวตามที่แฟนๆ เรียกร้อง
พรีวิว SHURE MV6 ไมค์เกมมิ่ง สำหรับเกมเมอร์ของแทร่
ไมค์ไดนามิก ที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมของคุณ ด้วยคุณภาพเสียงเกรดสตูดิโอ ติดตั้งใช้งานง่ายสุดๆ ด้วย USB เพียงเส้นเดียว!
รีวิว B&W PX8 หูฟังที่ดีที่สุด จาก Bowers & Wilkins
เจาะลึก รีวิว B&W PX8 หูฟังครอบหู ระดับ High-end ความลงตัวระหว่าง Luxury และคุณภาพเสียง จะน่าสนใจแค่ไหน อยากรู้ คลิกเลย!
รีวิว Proel FREEONEX ลำโพงอเนกประสงค์ในงบสุดคุ้มค่า!
พาชม รีวิว PROEL FREEONEX ลำโพง All-In-One มีแบตในตัว ที่มีฟีเจอร์การใช้งานครบครัน พกพาสะดวก ในราคาเพียง 10,900 บาท!
โปรโมชั่น
10.10 Double Digit ลำโพง หูฟัง จาก JBL ลดสูงสุด 60 %
10 - 12 ต.ค. 2567
Promotion Shure ไมโครโฟน SLXD Series ราคาสุดพิเศษ
1 - 31 ตุลาคม 2567 เท่านั้น!
10.10 Klipsch x Onkyo เครื่องเสียง ลำโพงโฮมเธียเตอร์ ลดสูงสุด 20%
10 - 19 ต.ค. 2567
10 อันดับเครื่องเสียงขายดี SoundDD.Shop ในปี 2024
เอาใจสายช้อป มาเปิดเผย 10 อันดับ เครื่องเสียงขายดี SoundDD.Shop ในปี 2024 เผื่อเป็นไอเดียในการตัดสินใจซื้อ เด็ด คุ้มค่า ไม่ผิดหวังแน่นอน!
ผลงานการติดตั้ง
ลูกค้าของเรา บริษัท อคาเซีย อินเตอร์เทค จำกัด ระบบเสียงห้องประชุม
ระบบเสียงคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการประชุมที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ พร้อมตอบโจทย์ทุกสถานการณ์!
ระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ Klipsch & Onkyo บ้านลูกค้า
สวัสดีทุกท่านที่หลงใหลในเครื่องเสียง! วันนี้เรามีระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ Klipsch & Onkyo จากลูกค้าของเรามาให้ชมกัน รับรองว่าอลังการทั้งคุณภาพและดีไซน์ ไปชมกันเลยครับ!
ลูกค้าของเรา บริษัท เจเคที คอมพิวเตอร์ จำกัด ระบบเสียงศาสนสถาน
วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมการติดตั้งระบบเสียงในศาสนสถาน การเลือกอุปกรณ์เสียงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันครับว่าในงานนี้เลือกใช้อะไรบ้าง
ระบบเสียงคาราโอเกะ SOUNDVISION บ้านลูกค้า
พาชมระบบเสียงคาราโอเกะ SOUNDVISION ที่บ้านลูกค้า มาดูกันว่าอุปกรณ์และระบบเสียงที่ติดตั้งจะตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้แค่ไหน