เจาะลึกฟีเจอร์ Auto Frequency Scanning บนไมค์ไร้สาย SOUNDVISION พร้อมใช้งาน!

Home » รีวิวสินค้า » เจาะลึกฟีเจอร์ Auto Frequency Scanning บนไมค์ไร้สาย SOUNDVISION พร้อมใช้งาน!

เวลาอ่านโดยประมาณ : 2 minute

สแกนหาช่องสัญญาณที่ว่าง ไร้คลื่นรบกวน พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไมโครโฟนไร้สาย ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เด็ดๆ เจาะลึกไปกับ Auto Frequency Scanning บนไมโครโฟนไร้สาย SOUNDVISION SU Series ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหา หรือจุดบอดเดิมๆ ของการใช้งานไมค์ไร้สายให้หมดไป จะเป็นอย่างไร? ไปชมกัน

เจาะลึก! SOUNDVISION SU-Series กับ Auto Frequency Scaning ฟังก์ชั่นราคาหลักหมื่น ใส่มาให้ใช้…ฟรี!!

ปัญหาของการใช้งานไมค์ไร้สายที่พบบ่อย

สำหรับท่านที่เคยจับไมค์ ใช้งานพูด บรรยาย หรือร้องเพลงบนเวทีด้วยไมโครโฟนไร้สาย อาจจะเคยพบปัญหาระหว่างการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากสัญญาณที่ขาดๆ หายๆ มีเสียงแทรก การรบกวนของสัญญาณ จนทำให้เกิดความรู้สึกว่า ไมโครโฟนไร้สาย หรือไมค์ลอย ไม่น่าใช้งานอีกต่อไป ความจริงแล้วเป็นแบบนั้นหรือไม่? มีสาเหตุเกิดจากอะไร? เราจะแก้ไข หรือป้องกันที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร?

หลักการทำงานของไมโครโฟนไร้สาย

จากประสบการณ์การใช้งานไมค์ไร้สายที่ผ่านมาของหลายๆ ท่าน คงเจอปัญหาระหว่างการใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคลื่นแทรก หรือคลื่นรบกวน ส่งผลให้เกิดอาการสัญญาณเสียงขาดๆ หายๆ จึงมองว่าไมโครโฟนไร้สายรุ่นนั้นๆ มีปัญหา ใช้งานได้ไม่ดี ไมโครโฟนไร้สายที่ใช้งานดีๆ คงต้องมีราคาสูงๆ หลายๆ หมื่นบาทขึ้นไป แต่ก่อนที่จะคิดแบบนั้นเราต้องเข้าใจถึงหลักการทำงานของไมโครโฟนไร้สายกันก่อน

โดยหลักการทำงาน คือ การรับส่งสัญญาณในรูปแบบของคลื่นวิทยุ (แทนสายสัญญาณ) ไม่ว่าจะเป็นคลื่นแบบ VHF, UHF, Digital, Infrared ที่แพร่อยู่ในอากาศ ซึ่งก็คือข้อจำกัดที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เราจึงไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าในพื้นที่ใช้งานอยู่นั้นจะมีคลื่นแทรกไหม? ช่องสัญญาณจะไปเบียด หรือไปชนกับไมโครโฟนไร้สายชุดอื่นๆ ของคนอื่นๆ ไหม? การเลือกใช้งานในช่องสัญญาณต่างๆ จึงมีให้เลือกน้อยลง ด้วยปัญหาเหล่านี้ ไมโครโฟนไร้สาย SOUNDVISION รุ่น SU-890D-II และ SU-990D จึงใส่ฟังก์ชั่นที่จะเข้ามาช่วยในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ ที่เรียกว่า Auto Frequency Scanning

Auto Frequency Scanning

ไมโครโฟนไร้สาย SOUNDVISION รุ่น SU-890D-II และ SU-990D มาพร้อมกับฟีเจอร์เด่นตัวนี้ด้วย Auto Frequency Scanning ของ SOUNDVISION ที่ต้องบอกว่าเป็นระบบ Frequency Analysis ด้วย การทำงานที่จะประมวลผลโดยวิเคราะห์ก่อนว่าคลื่นที่แพร่อยู่ในบริเวณที่เรากำลังใช้งานนี้ มีคลื่นความถี่ใดบ้าง? ช่องสัญญาณใดว่างบ้าง? มีสัญญาณรบกวนไหม? แล้วจึงจัดการเลือกช่องสัญญาณที่เหมาะสม ช่องที่ว่าง และคลีน ให้กับเราโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างก็จะเหมือนกับการใช้วิทยุฟังเพลงทั่วๆ ไป ที่จะทำงานสแกนหาคลื่นที่ชัดที่สุดให้โดยอัตโนมัติ ดูมีความคล้ายคลึงกัน แต่ทำงานตรงกันข้าม มันจะสแกนหาช่องสัญญาณที่ว่างที่สุด ไม่มีใครใช้งาน แล้วเลือกช่องสัญญาณนั้นให้กับไมโครโฟนของเรา

ฟีเจอร์แบบนี้ ถ้าสังเกตจะพบได้ในไมโครโฟนไร้สายรุ่นสูงๆ หลายหมื่นบาทขึ้นไป แต่ความพิเศษกว่าของไมโครโฟนไร้สาย SOUNDVISION รุ่น SU-890D-II และ SU-990D คือ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแสดงผลระดับความเข้ม หรือความอ่อนของคลื่นสัญญาณที่แพร่อยู่ในพื้นที่ใช้งานได้ เช่น หากไม่มีคลื่นรบกวนก็จะแสดงผลออกมาเป็นกราฟคงที่ ราบเรียบ แต่หากมีคลื่นรบกวนที่ใช้งานอยู่ในบริเวณนั้น กราฟก็จะแสดงออกมาให้เห็นเป็นคลื่นที่มีการใช้งานอยู่นั้นเอง ทำให้สามารถใช้งานจัดสรรช่องถี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่ก็คือประโยชน์ของระบบ Auto Frequency Scanning มากกว่าระบบการสแกนคลื่นแบบทั่วๆ ไป

ความแตกต่างระหว่างไมโครโฟนไร้สายทั่วๆ ไป

ฟีเจอร์นี้ หรือบางรุ่นเรียกว่า Auto Scan บางท่านอาจจะคิดว่าไม่เห็นแปลกเลย มันก็คือฟีเจอร์ที่เลือกช่องสัญญาณให้เราโดยอัตโนมัติไม่ใช่หรือ? ถูกต้อง มันจะสแกนช่องสัญญาณ และเลือกช่องสัญญาณให้เรา แต่จะมีความแตกต่างจากไมค์ทั่วๆ ไป ที่เป็นการทำงานสแกนช่องสัญญาณ และเพียงแค่สุ่มเลือกช่องสัญญาณมาให้เราใช้งาน โดยที่จะไม่รู้เลยว่าช่องสัญญาณที่เราใช้อยู่นั้นเป็นอย่างไร? มีคลื่นรบกวนไหม? เป็นช่องที่ว่างอยู่หรือไม่? มีคนกำลังใช้งานช่องสัญญาณนั้นอยู่หรือเปล่า? แต่ในส่วนของไมโครโฟนไร้สายจาก SOUNDVISION จะทำงานสแกนหาช่องสัญญาณ และแม่นยำในการเลือกช่องสัญญาณที่เหมาะสมที่สุด ช่องสัญญาณที่ไม่มีใครใช้งาน ไร้คลื่นรบกวนน้อยที่สุด แล้วจึงเลือกช่องสัญญาณนั้นให้กับไมโครโฟนของเรา

ข้อดี และจุดเด่น

ในพื้นที่การใช้งาน นอกจากการสแกนหาคลื่นที่ว่างที่สุด ที่เหมาะสมที่สุดให้เราใช้งานแล้ว หากเราใช้งานไมค์ไร้สายหลายๆ ชุดในพื้นที่เดียวกัน เดิมทีไมค์ไร้สายทั่วๆ ไป เราก็ต้องมานั่งปรับสแกนหาช่องสัญญาณที่ห่างๆ กัน หรือบางทีมีคลื่นแทรกระหว่างการใช้งานก็ต้องมานั่งปรับเปลี่ยนช่องสัญญาณกันไป ฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยได้ สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพกว่า ใช้งานง่าย โดยวิธีการใช้งานเพียงแค่กดปุ่ม Sync ปุ่มเดียว พร้อมกับจ่อ IR ของไมโครโฟนเข้ากับตัวเครื่อง เท่านี้ระบบก็จะหาช่องสัญญาณที่ว่าง ช่องสัญญาณที่คลีนที่สุดให้เราได้ใช้งานโดยอัตโนมัติ ตัวเครื่องรับสัญญาณ และไมโครโฟนซิงค์กัน พร้อมใช้งานได้เลย

ไมโครโฟนไร้สาย SOUNDVISION รุ่น SU-890D-II และ SU-990D

-16%

SOUNDVISION SU-890D-II/HT ชุดไมค์ลอย ดิจิตอล มือถือคู่ ย่าน UHF

฿10,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

-25%

SOUNDVISION SU-990D/HT ชุดไมค์ลอย ดิจิตอล มือถือคู่ ย่าน UHF

฿14,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

เหมาะกับการใช้งานอย่างไรบ้าง?

เพื่อความรวดเร็ว ความสะดวก และประสิทธิภาพในการใช้งาน ฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอน เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในสถานศึกษา เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย ไปจนถึงหน่วยงานต่างๆ องค์กร บริษัทที่มีห้องประชุม หรือมีห้องหลายๆ ห้อง มีการใช้งานไมโครโฟนไร้สายหลายๆ ชุด แน่นอนอาจเกิดการรบกวนของสัญญาณกันได้ เพื่อความคล่องตัว ฟังก์ชั่นนี้ก็จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ และจัดสรรช่องสัญญาณที่ว่างให้เราโดยอัตโนมัติ ใช้งานไมโครโฟนไร้สายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ราบรื่นตลอดการใช้งาน เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ดีๆ ที่อยู่ในไมโครโฟนไร้สาย SU Series จาก SOUNDVISION