Marshall ก่อตั้งโดย จิม มาร์แชล แบรนด์ที่เป็นขวัญใจนักดนตรีร็อครุ่นเยาว์ เนื่องจากในสมัยนั้นมีร้านขายเครื่องดนตรีที่ก่อตั้งมากขึ้น แต่เหล่าวัยรุ่นนักดนตรีก็ยังบ่นๆว่า ยังไม่มีโทนดนตรีที่พวกเขาถูกใจหรือต้องการต้องการจากเครื่องขยายเสียงที่มีอยู่ ดังนั้น จิมและเทอร์รี่ลูกชายของเขาจึงได้เล็งเห็นปัญหาและตัดสินใจที่จะสร้างมันขึ้นมาเอง โดยจิมมุ่งเน้นไปที่ตู้ของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ในขณะที่เทอร์รี่และเคน แบรน ซึ่งขณะนั้นเป็นวิศวกร ดูที่วงจร RCA และเริ่มทดลองกับส่วนประกอบต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Marshall Sound ถือกำเนิดขึ้น

แอมพลิฟายเออร์เครื่องแรกที่รู้จักกันในชื่อ ‘Number One’ ถือกำเนิดขึ้น และด้วยความสนใจอย่างมากจึงได้เข้าสู่การผลิตภายใต้ชื่อ JTM45 ซึ่งย่อมาจาก Jim & Terry Marshall ดึงดูดคำสั่งซื้อได้ 23 รายการในวันแรกที่วางจำหน่ายในเดือนกันยายน พ.ศ. 2505 นั่นคือความสำเร็จของเครื่องขยายเสียง

Marshall เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้ผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมามากมาย จนกลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเวลาเพียงไม่นาน และมีศิลปินระดับโลกมากมายที่ให้การไว้วางใจ Marshall เช่น Jimi Hendrix, Eric Clapton, Slash, Oasis, Muse, Gorillaz และ Bring Me The Horizon 

การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในปี 2010 คือการแยกสาขาเข้าสู่ตลาดหูฟัง โดยมีความตั้งใจในการนำคุณภาพของแบรนด์ Marshall ไปสู่ผู้ชมที่กว้างขึ้นและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเปิดตัว เปิดตัวหูฟังรุ่น Major และ Minor นั้นประสบความสำเร็จอย่างมากและตอนนี้ตัวเลือกแบบอินเอียร์ ออนเอียร์ และโอเวอร์เอียร์พร้อม ANC และเทคโนโลยีเสียง มาร์แชล ได้มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องเสียงออกมาอย่างต่อเนื่องรวมถึง หูฟังและลำโพงเสียงทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว

ภาพรวม

เป็นลำโพงบลูทูธพกพารุ่นล่าสุด มีจุดเด่นที่ความดัง มีแบตเตอรี่ที่อึด สามารถใช้งานได้อย่างสมบุกสมบัน ทนทานต่อฝุ่นและน้ำระดับ IP67 ไม่ว่าจะเปิดฟังชิว ๆ ในที่ร่มหรือจะนำติดตัวออกไปนอกสถานที่ก็ไม่มีปัญหา มาพร้อมหูหิ้วทำให้การพกพานั้นสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยน้ำหนัก 1.8 กิโลกรัม โดยทาง Marshall ได้บอกว่า middleton นั้นเป็นลำโพงที่ดังที่สุด (Max SPL) ในรุ่นพกพาด้วยระดับความดันเสียงสูงสุด 87 dB พร้อมสร้างเวทีเสียง 360 องศา

คุณสมบัติ

ขยายเสียงเพลงด้วย STACK MODE

สามารถเชื่อมต่อ middleton หลาย ๆ ใบตามใจคุณต้องการ วางซ้อนกันหรือจะวางเป็นแนวกว้างเพื่อให้ได้พื้นที่เสียงขนาดใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเปิดเพลงในห้องหรือไปปาร์ตี้ข้างนอก ก็มอบเสียงสุดกระหึ่มแบบสะใจตามใจคุณต้องการ

สเปคภายใน

ด้านเสียง
ไดร์เวอร์ไดนามิก ให้ช่วงความถี่อยู่ที่ 50Hz – 20,000Hz ประกอบไปด้วยดอกวูฟเฟอร์ 3 นิ้ว 2 ดอก กำลังขับ 20 วัตต์/ดอก ทวีตเตอร์ 3.5 นิ้ว 2 ดอก10 วัตต์/ดอก และ passive radiators ที่ด้านซ้ายและขวา สามารถปรับเสียงเบสและเสียงแหลมได้อย่างละเอียดโดยใช้ส่วนควบคุมแบบอนาล็อกบนลำโพง ลำโพงให้ความดังสูงสุดที่ 87 dB พร้อมแอมป์คลาส D 2×20 วัตต์ สำหรับสำหรับวูฟเฟอร์ และ แอมป์คลาส D 2×10 วัตต์ สำหรับทวีตเตอร์

แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบชาร์จไฟได้ในตัว เล่นเพลงได้ต่อเนื่องยาวนาน 20+ ชั่วโมง พร้อมชาร์จเร็ว 20 นาทีเล่นได้ 2 ชั่วโมงและระยะเวลาในการชาร์จจนเต็มที่ 4.5 ชั่วโมง

ขนาดและน้ำหนัก
109 x 230 x 95 มม. (4.29 x 9.06 x 3.74 นิ้ว) และมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.8 กิโลกรัม (4.0 ปอนด์) กันน้ำ IP67

การควบคุมและการเชื่อมต่อ
แผงควบคุมด้านบนประกอบไปด้วย: เล่น/หยุดชั่วคราว, ข้ามแทร็ก, ควบคุมระดับเสียง, เปิด/ปิด, ปุ่มจับคู่บลูทูธและเปิดใช้งานโหมด Stack, ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่และระดับเสียง, ปุ่มควบคุมเสียงแหลมและเสียงเบส สามารถตั้งค่า EQ ผ่านทางแอพ การเชื่อมต่อบลูทูธ 5.1 ระยะ 10 เมตร (30 ฟุต) โดยใช้ CODECS : SBC

Middleton เหมาะกับใคร ?

เหมาะสำหรับสายแคมป์ปิ้งหรือคนที่ชอบลำโพงพกพาแล้วต้องการเสียงที่ดังกระหึ่มรวมถึงแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20+ ชั่วโมง ตัวลำโพงนั้นก็ใช้งานง่ายเพราะสามารถปรับค่าต่างๆได้ที่ตัวลำโพงเลย หรือหากต้องการปรับอย่างละเอียดก็สามารถทำได้ผ่านแอปครับ