โปรเจคเตอร์ กับ ทีวี อะไรดีกว่ากัน? เลือกอะไรดี!? อยากรู้ คลิกเลย!

Home » เกร็ดความรู้ (Tip & Trick) » โปรเจคเตอร์ กับ ทีวี อะไรดีกว่ากัน? เลือกอะไรดี!? อยากรู้ คลิกเลย!

Estimated reading time: 3 นาที

1 ในข้อถกเถียงเกี่ยวกับความบันเทิงภายในบ้าน ที่เมื่อพูดถึงทีไร คำตอบที่ได้กลับมามักจะเสียงแตกอยู่เสมอ นั่นคือ โปรเจคเตอร์ กับ ทีวี อะไรดีกว่ากัน ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ที่ความชอบส่วนบุคคุล และปัจจัยภายนอกอื่นๆ ในบทความนี้ผมจะพาเพื่อนๆ มาตีแผ่ กันทีละด้าน ชนกันแบบตรงๆ ระหว่าง โปรเจคเตอร์ และ ทีวี ว่าจริงๆ แล้วแบบไหนมันเจ๋งกว่ากัน ทั้งในแง่ของคุณภาพ และความคุ้มค่า เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณ ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลยครับ ~

สารบัญ

ข้อดีและข้อจำกัดของโปรเจคเตอร์ และทีวี
- ข้อดีและข้อจำกัดโปรเจคเตอร์
- ข้อดีและข้อจำกัดทีวี
ชนกันจังๆ โปรเจคเตอร์กับทีวี อะไรดีกว่ากัน?
สรุป

ข้อดีและข้อจำกัดของโปรเจคเตอร์กับทีวี

โปรเจคเตอร์ และ ทีวี เป็นอุปกรณ์สำหรับแสดงผลที่เป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ สำหรับความบันเทิงภายในบ้าน จากที่ในยุคก่อนทีวีเป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่ผูกขาดความบันเทิงภายในบ้านไว้แต่เพียงผู้เดียว แต่ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีต่างๆ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ผู้ผลิตโปรเจคเตอร์หลายๆ เจ้า ได้ยกระดับขีดความสามารถของโปรเจคเตอร์ขึ้นมา โดยเราจะสามารถพบเห็นหลายๆ บ้านที่เลือกใช้โปรเจคเตอร์สำหรับความบันเทิงภายในบ้านมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลัง และจะค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

สาเหตุที่โปรเจคเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในด้านความบันเทิงภายในบ้าน ก็คงจะหนีไม่พ้นอารมณ์ในการรับชมภาพยนต์ผ่านโปรเจคเตอร์ ที่จะให้อารมณ์ในการรับชมที่ยอดเยี่ยมที่สุด(เพราะภาพยนต์ทุกเรื่องถูกถ่ายทำมาเพื่อฉายด้วยโปรเจคเตอร์อยู่แล้ว) ช่วยให้ภาพยนต์สามารถถ่ายทอดมูด&โทน ได้ตรงตามที่ผู้สร้างหนังต้องการมากที่สุด เรียกว่าเป็น

มนต์เสน่ของโปรเจคเตอร์ที่คุณไม่สามารถหาได้จากทีวี

ข้อดีและข้อจำกัดของโปรเจคเตอร์

โปรเจคเตอร์ เป็นอุปกรณ์ในการแสดงผลภาพที่ใช้หลักการทำงานเป็นการฉายภาพไปยังผนัง หรือจอโปรเจคเตอร์ เพื่อให้แสงตกกระทบแล้วสะท้อนมาให้ผู้ชมรับชม ส่งผลให้คุณภาพ สีสันและคอนทราสก์ที่ได้ ดรอปลง แต่ก็มีข้อดีคือ อาการตาล้าจากการรับชมเป็นระยะเวลานานๆ โปรเจคเตอร์จะทำได้ดีกว่าทีวี

ข้อดีสำคัญที่โปรเจคเตอร์ทำได้ดีกว่าทีวีเลยคือ ขนาดของภาพที่สามารถฉายได้ หากคุณเลือกซื้อโปรเจคเตอร์ด้วยงบ 1-2 หมื่น คุณอาจจะได้ความคมชัดของภาพเพียง Full-HD (1080p) แต่ข้อดีที่คุณจะได้จากโปรเจคเตอร์ คือขนาดภาพที่ใหญ่กว่า 100 นิ้ว ซึ่งถ้าคุณมองหาทีวีขนาด 100 นิ้ว แน่นอนว่าราคาต้องเกือบๆ แสนแน่นอน

ข้อดีของโปรเจคเตอร์

ให้ภาพที่มีขนาดใหญ่เต็มตา เติมเต็มประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์ขั้นสุด
มีราคาถูกมากหากเทียบกับทีวีที่มีขนาดจอใหญ่
ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของการจัดวาง และการพกพา

ข้อจำกัดของโปรเจคเตอร์

ในแง่ของสถานที่ใช้งาน ควรจะเป็นห้อง หรือสถานที่ที่มีแสงรบกวนน้อย
มีการติดตั้งใช้งาน ที่ยุ่งยากกว่าทีวี
หากอยากได้คุณภาพของภาพระดับ 4K สีสัน และคอนทราสก์ที่ดี จำเป็นที่จะต้องจ่ายแพงขึ้น

– กลับไปที่สารบัญ –

แนะนำ 6 โปรเจคเตอร์ดูหนัง 4K คุ้มค่า ยี่ห้อไหนดี? ที่สุดของปี 2023!

อ่านบทความ แนะนำ 6 โปรเจคเตอร์ดูหนัง 4K คุ้มค่าที่สุดของปี 2023

ข้อดีและข้อจำกัดของทีวี

ทีวี เป็นอุปกรณ์แสดงผลภาพที่ใช้หลักการเป็นการฉายภาพตรงออกมาสู่ตาของผู้ชม ผลที่ได้คือภาพที่มีความคมชัด สีสันที่สวยสด และคอนทราสก์ที่ยอดเยี่ยม หากคุณมีงบน้อยและชื่นชอบในการรับชมภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และสีสัน ทีวีอาจจะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม

แต่การฉายภาพตรงสู่ตาของผู้ชมก็มีข้อเสียเช่นกัน ถึงแม้จะให้ภาพที่สวยสด และคมชัดมากกว่า แต่ก็ส่งผลให้ตาของผู้ชมเกิดอาการล้าได้ง่ายเมื่อรับชมเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งโปรเจคเตอร์จะเกิดอาการของตาล้าได้ยากกว่าเนื่องจาก เป็นการฉายภาพแล้วผู้ชมรับชมภาพที่เกิดจากการสะท้อนจากจอหรือผนังนั่นเองครับ

ข้อดีของทีวี

ปริมาณเม็ดพิกเซลเยอะ ให้ระดับความสว่างสูง ส่งผลให้ภาพที่ได้มีความคมชัดจัดๆ
อัตราส่วนคอนทราสก์ (Contrast Ratio) ที่ดี ภาพที่ได้จะมีมิติมากยิ่งขึ้น
ติดตั้งใช้งานง่ายกว่าโปรเจคเตอร์ แค่เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งานทันที
ให้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมด้วยราคาที่ไม่แพง

ข้อจำกัดของทีวี

ขนาดถาพที่ได้ไม่ใหญ่ ยิ่งทีวีมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีราคาที่สูง
แม้ภาพที่ได้จะมีความคมชัด และให้สีสันที่สวยงาม แต่มูดหรืออารมณ์ในการรับชมเทียบไม่ได้กับการชมด้วยโปรเจคเตอร์
มีข้อจำกัดในการใช้งาน ด้านการพกพา และการจัดวาง

– กลับไปที่สารบัญ –

ชนกันจังๆ ระหว่างโปรเจคเตอร์ กับ ทีวี อะไรดีกว่ากัน?

คุณภาพของภาพ

ในแง่คุณภาพของภาพที่ได้ทีมงานมองว่า ทีวี เป็นอุปกรณ์การแสดงผลที่ได้เปรียบกว่า โปรเจคเตอร์ อยู่พอสมควร เนื่องจากทีวีจะใช้การฉายภาพออกมาจากทางด้านหน้า ยิงภาพเข้ามาที่ตาของผู้ชมโดยตรง สีของภาพ และคอนทราสก์ที่ได้จะทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน แตกต่างจากโปรเจคเตอร์ ที่เป็นการฉายไปยังจอรับภาพ เพื่อฉายออกมาเป็นภาพ สีสันและคอนทราสก์จะตกลง สู้กับทีวีไม่ได้จริงๆ ในข้อนี้

แต่ในช่วงไม่กี่ปีหลัง โปรเจคเตอร์ได้ถูกพัฒนาขีดความสามารถหลายๆ ด้าน ให้สามารถฉายภาพที่มีความสดของสี และคอนทราสก์ที่ยอดเยี่ยมได้ไม่แพ้ทีวี แต่จะเป็นโปรเจคเตอร์ในระดับ High-End เท่านั้น ที่ให้สี และคอนทราสก์ที่ดีเทียบเท่าทีวี หากเป็นในรุ่นล่างๆ ทีวีก็ยังคงกินขาดแน่นอนครับ

– กลับไปที่สารบัญ –

ขนาดภาพ

เรื่องขนาด นี่นับเป็นจุดสำคัญจุดนึงที่โปรเจคเตอร์ชนะทีวีแบบขาดลอย แบบนำมาเทียบกันไม่ได้เช่นกัน ด้วยความที่โปรเจคเตอร์นั้นถูกออกแบบมาเพื่อฉายภาพให้มีขนาดใหญ่อยู่แล้ว แตกต่างจากทีวีที่ถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน ซึ่งจะถูกจำกัดขนาดของภาพตามลักษณะตามกายภาพ (ขนาดจอ) จึงทำให้ในข้อนี้โปรเจคเตอร์ก็ชนะไปแบบขาดลอยครับ

– กลับไปที่สารบัญ –

การติดตั้งและการตั้งค่า

เป็นอีกจุดที่ทีวีทำได้ดีกว่า โปรเจคเตอร์ อย่างชัดเจน คุณไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ใดๆ คุณก็สามารถที่จะตั้งค่า และติดตั้งใช้งานทีวีได้ด้วยตัวคนเดียว(เว้นแต่ว่าคุณบื้อเกิน) แตกต่างจากโปรเจคเตอร์ที่คุณจำเป็นที่จะต้องมีความรู้เกี่ยวกับโปรเจคเตอร์ตัวนั้นๆ บ้างสักเล็กน้อยเพื่อที่จะติดตั้งใช้งาน

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันโปรเจคเตอร์ใหม่ๆ จะพยายามลดความยุ่งยาก ให้ทุกคนสามารถที่จะติดตั้งและใช้งานโปรเจคเตอร์ได้ด้วยตนเอง แต่ไม่ว่ามองมุมไหน ยังไงทีวีก็ยังคงง่ายกว่าอยู่ดีครับ

– กลับไปที่สารบัญ –

ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ในข้อนี้ทีมงานขออนุญาตให้ทางโปรเจคเตอร์ที่ทำได้โดดเด่นกว่า เนื่องจากสามารถนำไปพลิกแผงและใช้งานได้ยืดหยนุ่นกว่าค่อนข้างชัดเจน คุณสามารถที่จะย้ายโปรเจคเตอร์จากห้องนึง เพื่อไปใช้งานที่อีกห้องได้แทบจะทันที แตกต่างจากทีวีอย่างชัดเจน ที่ยกกันปวดหลังแน่นอน นี่ยังไม่นับเรื่องคุณสามารถที่จะพกโปรเจคเตอร์ออกไปเพื่อดูหนังกลางแจ้งได้อีก เอาเป็นว่าทีมงานให้โปรเจคเตอร์กินขาดไปในข้อนี้ครับ

– กลับไปที่สารบัญ –

ราคาและความคุ้มค่า

เมื่อพูดถึงในเรื่องของราคา คนมักจะคิดกันว่าทีวีจะมีราคาที่ถูกกว่าโปรเจคเตอร์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะหากคุณกำเงินในมือสัก 1-2 หมื่น คุณสามารถมองหาทีวีที่ให้รายละเอียดของภาพระดับ 4K และสีสันที่สุดยอดได้เลย แต่ถ้าหากคุณกำเงิน 1-2 หมื่น ไปซื้อโปรเจคเตอร์ คุณจะได้โปรเจคเตอร์ที่ให้ความคมชัดสูงสุดให้คุณได้เพียง Full-HD(1080p)

แต่ถ้าหากมองกลับกัน หากคุณอยากได้ทีวีที่มีขนาดภาพใหญ่สัก 100 นิ้ว คุณอาจจะต้องจ่ายเกือบแสน เพื่อที่จะได้ภาพขนาดใหญ่ 100 นิ้ว โดยที่คุณสามารถใช้เงินเพียง 1-2 หมื่น เพื่อซื้อโปรเจคเตอร์เท่านี้ ก็เพียงพอที่คุณจะได้ภาพขนาด 100 นิ้วได้เลย

เอาเป็นว่าในข้อนี้ทีมงานให้เป็นเสมอ เนื่องจากทั้งโปรเจคเตอร์ และทีวีต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยในตัว

– กลับไปที่สารบัญ –

หลังจากที่คุณอ่านมาจนถึงจุดนี้ ทีมงานหวังว่าเพื่อนๆ จะได้ข้อสรุปกันแล้วว่า โปรเจคเตอร์ กับ ทีวีอะไรดีกว่ากัน แต่หากยังไม่เข้าใจทีมงานจะสรุปให้ดังนี้ครับ

สรุป

หากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบสีสันที่สดใส คอนทราสก์ที่ยอดเยี่ยม และซีเรียสในเรื่องความละเอียดของภาพ โดยที่มีงบที่จำกัด ทีวีเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากกว่าแน่นอน

แต่ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่ชื่นชอบอารมณ์ในการรับชมภาพยนต์ที่เหมือนกำลังรับชมในโรงภาพยนต์ ชอบขนาดของภาพที่ใหญ่สะใจ ทีมงานมองว่าโปรเจคเตอร์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าจะตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ดีกว่า ยิ่งถ้าคุณมีงบประมาณมากพอ คุณสามารถเลือกโปรเจคเตอร์ High-End ที่ให้คุณภาพของภาพ สีสัน และคอนทราสก์ที่ดีเทียบเท่า หรืออาจจะมากกว่าที่ทีวีจะให้คุณได้เลยด้วยซ้ำ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังลังเลที่จะเลือกระหว่างโปรเจคเตอร์ กับ ทีวี ให้ตัดสินใจได้ง่าย และเลือกได้ตอบโจทย์การใช้งานของเพื่อนๆ มากที่สุด วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ ~

ขอบคุณรูปภาพจาก SONY

เลือกช้อปสินค้า โปรเจคเตอร์

โปรเจคเตอร์ดีกว่าทีวียังไง?

ตอบ : มีสองจุดใหญ่ที่โปรเจคเตอร์ทำได้ดีกว่าทีวีอย่างชัดเจน
1. ขนาดภาพที่ใหญ่เต็มตา และอารมณ์ในการรับชมที่เต็มอิ่มมากกว่า
2. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ที่สามารถพกออกไปรับชมหรือใช้งานได้ง่ายกว่าทีวี

ทีวีดีกว่าโปรเจคเตอร์ยังไง?

ตอบ : มีสองจุดใหญ่ที่ทีวีทำได้ดีกว่าโปรเจคเตอร์อย่างชัดเจน
1. คุณภาพของภาพ ทั้งในด้านรายละเอียดความคมชัด และสีสันที่สวยสดมากกว่า
2. การติดตั้งและตั้งค่าใช้งาน ที่ทำได้ง่ายกว่าโปรเจคเตอร์มากๆ

มีงบ 30,000 บาท ซื้อโปรเจคเตอร์หรือทีวีดี?

ตอบ : หากจะซื้อไปรับชมภาพยนต์ ทีมงานมองว่ายังไงโปรเจคเตอร์ก็ตอบโจทย์ได้ดีกว่าด้วยขนาดภาพที่ใหญ่เต็มตา และอารมณ์ในการรับชมที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงหนัง แต่ต้องบอกไว้เลยว่าหากเทียบราคากันจริงๆ ทีวีจะให้รายละเอียดของภาพและสีสันที่สวยสดมากกว่า ในราคาที่ใกล้เคียงกัน

แชร์หน้านี้ :