เชื่อว่าหลายๆ คนต้องเคยได้ยินคำว่า หูฟัง ANC (Active Noise Cancelling) หรือ หูฟังตัดเสียงรบกวน กันมาบ้างไม่น้อย แต่แล้วจริงๆมันคืออะไรหล่ะ? ทำงานยังไง? แล้วมันช่วยอะไรกับการฟังได้บ้าง? วันนี้ทาง SoundDD จะมาคลายข้อสงสัยเหล่านั้นให้เพื่อนๆ ได้รับฟังกันครับ.

สารบัญ

1. 1. หูฟังตัดเสียงรบกวน คือ?

   2. หูฟังตัดเสียงรบกวน ทำงานยังไง?

   3. หูฟังตัดเสียงรบกวน ช่วยอะไร?

   4. หูฟังยี่ห้อไหนตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด

   5. สรุป

หูฟัง ANC หรือ หูฟังตัดเสียงรบกวน คือ?

หูฟังตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) คือ หูฟังที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังที่เหนือชั้น ด้วยการใช้เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูงที่สามารถปิดกั้นเสียงภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานโดยใช้ไมโครโฟนในตัวเพื่อจับเสียงภายนอกแล้วสร้างคลื่นเสียงต้านกับเสียงรบกวนภายนอกเพื่อสร้างสัญญาณรบกวนทำลายเสียงรบกวนภายนอกที่ไม่ต้องการออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

วัตถุประสงค์หลักของหูฟัง ANC

คือ การลดเสียงรอบข้างที่ไม่ต้องการเข้ามาในหูฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการทำเช่นนี้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับเพลงโปรด พ็อดคาสท์ หรือการโทร โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ในขณะฟังเพลงได้.

และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยี ANC มีความก้าวหน้าอย่างมาก ส่งผลให้ระบบตัดเสียงรบกวนมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากขึ้น หูฟัง ANC ระดับไฮเอนด์บางรุ่นมีหลายโหมด ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ตามความต้องการ นอกจากนี้ การออกแบบหูฟัง ANC ยังดูเพรียวบางและน้ำหนักเบามากขึ้น จึงมั่นใจได้ถึงความสบายระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน

• BOSE Noise Cancelling Headphones 700 UC หูฟังตัดเสียงรบกวน แบบไร้สาย ใช้งานได้ 20 ชม. ฿18,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

หูฟังตัดเสียงรบกวน ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ หูฟังตัดเสียงรบกวน นั้นมีหลักการทำงานเป็นการผสมผสานระหว่าง ฮาร์ดแวร์ และเฟิร์มแวร์ ที่ทำให้เสียงภายนอกเงียบลงขณะที่เราฟังเพลง. โดยที่ตัวหูฟังที่มีระบบนี้ จะทำหน้าที่ปล่อยคลื่นไฟฟ้าไดนามิกออกมา กลบเสียงจากภายนอกอีกชั้น หรือการที่ไมโครโฟนที่มีอยู่บนตัวหูฟังนั้นๆ จะรับเสียงจากภายนอกเข้ามา เพื่อทำการประมวลผลว่าควรจะตัดเสียงให้ได้ระดับใดกับเสียงรบกวนสภาพแวดล้อมโดยรอบ แล้วคอยสร้างคลื่นรบกวนในระบบตรงกันข้าม เพื่อสวนทางกลับไปมา ทำให้เกิดคลื่นเดียวที่ราบเรียบ และก่อให้เกิดการหักล้างระบบเสียงขึ้นมาโดยข้อดีของเทคโนโลยีนี้คือมีขนาดที่เล็กและยังประหยัดพลังงานมากๆ และสามารถพบหาได้จากหูฟังประเภท In-Ear True Wireless, On-Ear และ Over-Ear.

โดยทั่วไปแล้ว หูฟังตัดเสียงรบกวนมีหลายแบบที่ใช้แทนกันได้ แต่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย

• Passive Noise Cancellation: เป็นการป้องกันเสียงรบกวนโดยไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยอาศัยการรบกวนจากวัสดุของหูฟังประเภทนั้นๆ เช่น ซิลิโคน, โฟม ฟองน้ำ, ยาง นำมาทำเป็นตัวจุก หรือตัวครอบหูฟัง ที่คอยบดบังกันเสียงรบกวนจากภายนอก และลดเสียงที่จะเล็ดลอดออกจากหูฟังให้น้อยที่สุด.
• Active Noise Cancellation: เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้ามาช่วยเลี้ยงการทำงานของไมโครโฟน และระบบวงจรประมวลผลที่ถูกติดตั้งลงในหูฟัง เพื่อทำการประมวลผลสร้างคลื่นรบกวนในระบบตรงกันข้าม ก่อให้เกิดการหักล้างระบบเสียง ส่งผลให้เสียงรบกวนส่วนเกินหายไป.
• Adaptive Active Noise Cancellation: จะเป็นระบบขั้นสูง ที่ใช้ไมโครโฟน และหูฟังปรับเสียงรบกวนสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติในทุกสถานที่ โดยไม่ต้องไปตั้งค่าใดๆ ทั้งสิ้น.
• Adjustable Active Noise Cancellation: ในระบบนี้สามารถให้เพื่อนๆ ปรับระดับได้โดยตามใจชอบว่าจะเอาเสียงรบกวนภายนอกเข้ามาในระดับไหนได้อย่างเต็มรูปแบบผ่านแอปพลิเคชั่นของยี่ห้อของหูฟังนั้นๆ.

หูฟังตัดเสียงรบกวน ช่วยอะไรบ้าง?

• ช่วยถนอมแก้วหู: เพราะการเปิดเสียงเพลงที่ดังแข่งกับเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่ดังตามด้วยนั้นอาจทำให้ระบบประสาทหูของผู้ฟังนั้นเสื่อมสภาพจนไปถึงขั้นหูตึง. จากการที่มีเทคโนโลยี ANC เข้ามานั้น จะช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกแทบจะทั้งหมด โดยที่เราไม่ต้องปรับความดังเสียงเพลงของหูฟังเราแข่งกับเสียงสภาพแวดล้อมรอบๆอีกต่อไปเลย. 
• ช่วยให้มีสมาธิ: จากผลสำรวจของนักวิจัยนั้นพบว่า เสียงรบกวนรอบข้างนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงก่อสร้าง หรือเสียงของเด็กๆนั้น ที่เราต้องเผชิญอยู่เกือบทุกวันนั้น สามารถทำให้เกิดความหงุดหงิด, ความเครียด หรือการหลุดโฟกัสจากงานที่เรากำลังทำอยู่นั้นได้.
• ช่วยให้มีความสุขกับการฟังเพลงมากขึ้น: รู้สึกบ้างไหมว่าเสียงรบกวนจากรอบข้างนั้น กระทบความรู้สึกต่อการฟังเพลงของเพื่อนๆ มากน้องเพียงเท่าไหร่ ถ้าคุณจำเป็นต้องเดินทางไกลแล้วต้องได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา. แต่ถ้าหูฟังของคุณนั้นมีเทคโนโลยี ANC แล้วละก็จะช่วยให้คุณมีความสุขกับเสียงเพลงไปตลอดการเดินทาง.
• ช่วยให้การสื่อสารผ่านหูฟังชัดเจนขึ้น: นอกจากหูฟัง ANC นั้นจะช่วยตัดเสียงรบกวนจากภายนอกแล้ว ยังช่วยตัดเสียงรบกวนกับการคุยโทรศัพท์ผ่านหูฟังตัวนั้นได้อีกด้วย.

• SONY WF-1000XM4 หูฟังไร้สาย แบบ IN-EAR ฿8,990 (รวม VAT 7% แล้ว)

หูฟังยี่ห้อไหนตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด

Bose QuietComfort Earbuds II 

เป็นหนึ่งในแบรนด์หูฟัง ANC ที่ดีที่สุดที่ได้รับความเป็นที่นิยม และได้ผลตอบรับจากผู้ใช้งานมากที่สุด ที่สามารถตัดเสียงรบกวนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแบรนด์อื่นๆ มีคุณภาพเสียงเบสที่ลงได้ลึก และหนักแน่น เสียงกลางชัดเจนมีความสมดุล เสียงสูงคมชัดอย่างมีรายละเอียด อีกทั้งยังมีเวทีเสียงที่ดี ซึ่งให้ความรู้สึกถึงพื้นที่และความลึกของเวทีเสียง.

Sony WH-1000XM5

ก็ยังเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์หูฟัง ANC ที่ดีที่สุดแต่ด้วยความเป็นหูฟังประเภท Over-Ear จึงเป็นที่นิยมน้อยกว่า Bose QuietComfort Earbuds II เนื่องจากมีขนาดที่ใหญ่จัดเก็บอุปกรณ์ได้ค่อนข้างลำบาก ส่วนคุณภาพการตัดเสียงรบกวนก็ถือว่ายังมีประสิทธิภาพน้อยกว่าหูฟัง Bose QuietComfort Earbuds II เล็กน้อย และคุณภาพเสียงของ WH-1000XM5 นั้นดีกว่า Bose QuietComfort Earbuds II เนื่องจากมีขนาดไดร์ฟเวอร์ที่ใหญ่กว่าจึงให้เสียงที่มีความสมดุล และมีรายละเอียดมากขึ้น.

• BOSE QuietComfort Earbuds II หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวน แบบ IN-Ear ฿10,990 (รวม VAT 7% แล้ว)
• SONY WH-1000XM5 หูฟังไร้สาย ตัดเสียงรบกวน แบบ Over-ear ฿14,990 (รวม VAT 7% แล้ว)

สรุปแล้ว…

หูฟังที่มีระบบช่วยตัดเสียงรบกวนนั้น มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันเรานั้นจริงๆ เพราะมันช่วยถนอม และรักษาสุขภาพเราได้จากสภาพแวดล้อมข้างๆ แต่ราคาของหูฟังประเภทนี้ก็มีราคาที่สูง. และที่สำคัญเลยว่าไม่แนะนำให้ปรับโหมด ANC เต็มรูปแบบแล้วออกไปเดินข้างถนน เพราะเราจะไม่ได้ยินเสียงรอบข้างโดยรอบ และเกิดอันตรายจากเสียงที่เราไม่ได้ยิน.

ข้อมูลจาก wemall และ proreview

บทความที่คุณอาจสนใจ

ดูแลหูฟัง ตัวโปรดของคุณได้ง่ายๆ เพียงทำตามวิธีนี้!?

หูฟัง Wireless กับหูฟัง Truewireless แตกต่างกันยังไง? แบบไหนเจ๋งกว่ากัน!?

หูฟังมีกี่ประเภท มีแบบไหนบ้าง?

ประโยชน์ 5 ข้อ เมื่อใช้งานไมค์บันทึกเสียง ร่วมกับชุดหูฟัง | ดีกว่าลำโพงมอนิเตอร์ ?