เลือกชุดเครื่องเสียง อย่างไร? ยิ่งถ้าเราเป็นมือใหม่ที่สนใจในระบบเสียง หากต้องการจะซื้อเครื่องเสียงสักชุดเพื่อใช้งาน จะเริ่มอย่างไรดี คำถามนี้อาจผุดขึ้นมาในความคิดของใครหลายๆคน วันนี้ SoundDD.Shop “5 เคล็ดลับ เลือกชุดเครื่องเสียงอย่างไร ให้ตอบโจทย์ การใช้งาน อย่างคุ้มค่า” เป็นเทคนิคดีๆ ก่อนการเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงเบื้องต้น แต่ได้ประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน อย่างคุ้มค่ากับเงินที่เรายอมควักจ่าย ได้อย่างแน่นอน พร้อมแล้วลุยไปด้วยกันเลย!

5 เคล็ดลับ เลือกชุดเครื่องเสียงในบทความนี้

1. เลือกให้เหมาะกับลักษณะของงาน
2. เลือกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่ และจำนวนคน
3. ดูงบประมาณในกระเป๋าตังค์ หรือในงบประมาณที่จำกัด
4. ปรึกษาผู้รู้ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ไว้ใจได้
5. ใช้ของแท้ ของดี มีประกันหลังการขาย

ลักษณะของงานที่ต้องการนำไปใช้ คือ เหตุผลแรกที่จะต้องคำนึงและนึกถึง เช่น

• ใช้งานตามงานอีเว้นท์ทั่วไป อาจจะต้องเลือกใช้ชุดเครื่องเสียงที่เน้นความสะดวกสบายในการขนย้าย และติดตั้งง่าย
• ใช้งานเพื่อบรรยาย เน้นการเรียนการสอนนอกสถานที่ อาจจะใช้ชุดลำโพงมีแอมป์ในตัวและมีแบตเตอรี่และมีไมค์ในตัว ขนาดที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่ง่าย และขนย้ายสะดวก
• ใช้เพื่องานแสดงคอนเสิร์ต อาจะต้องใช้ชุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง ให้ความดังที่ครอบคลุมพื้นที่และให้คุณภาพเสียงที่ดี
• ใช้ในร้านกาแฟ บาร์น้ำ หรือร้านอาหารขนาดเล็ก แค่เพียงเราใช้ชุดเครื่องเสียงที่มีลำโพงขนาดเล็ก เพื่อเปิดเพลงเป็นแบล็คกราวด์มิวสิคเบาๆ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดี เท่านี้ก็เพียงพอ

เพราะฉะนั้น เราจึงควรเลือกชุดเครื่องเสียงให้เหมาะกับลักษณะของงาน ที่เราต้องการใช้งานให้ได้มากที่สุด

ขนาดพื้นที่เล็กๆหรือจำกัด อาจจะใช้ชุดเครื่องเสียงขนาดเล็ก หากเป็นขนาดพื้นที่ใหญ่หรือกว้าง ก็ต้องใช้ชุดเครื่องเสียงมีขนาดที่พอเหมาะหรือใหญ่ขึ้นหรือจำนวนของลำโพงที่มีจำนวนมากพอ เพื่อให้เสียงที่ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อการได้ยินอย่างชัดเจนอย่างทั่วถึง

ก่อนเลือกซื้อ ให้เราตรวจสอบขนาดพื้นที่ใช้งาน และจำนวนคนเสียก่อน ว่ามีพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ จำนวนคนประมาณเท่าไหน (นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องการใช้งานก็คือ เป็นงานอินดอร์ในร่ม หรืองานกลางแจ้งอีกด้วย
เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด)

ปฎิเสธไม่ได้ว่า…ชุดเครื่องสียงที่มีคุณภาพดี ย่อมมีราคาที่สมเหตุสมผลกับคุณภาพ แล้วเราจะเลือกอย่างไรให้อยู่ในงบที่จำกัดหล่ะ วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลนั่นคือ “การเลือกแล้วเปรียบเทียบ” เราอาจจะดูชุดเครื่องเสียงเบื้องต้นที่ตรงใจเรา และอยู่ในงบที่เราจ่ายไหว ไว้ซัก 2- 3 ชุดหรือ 2-3 ยี่ห้อ หรือมากกว่า แล้วนำมาเปรียบเทียบคุณภาพ ทั้งเรื่องคุณภาพเสียง ฟังก์ชั่นการใช้งาน หรือแม้กระทั่งวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต ว่ามีความตรงใจ และตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ได้ชุดที่ถูกใจที่สุด แค่นี้เราก็ได้เทคนิคง่ายๆ ในการเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงในงบประมาณที่จำกัดให้คุ้มค่าแล้วครับ

หากเราต้องการซื้อรถ ก็ต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถ ซื้อประกัน ก็ต้องปรึกษาตัวแทนบริษัทประกัน ชุดเครื่องเสียงก็เช่นกันครับ เราต้องปรึกษาหาข้อมูลจากทีมขายที่มีประสบการณ์ ผู้มีความชำนาญ เชี่ยวชาญในด้าน “ระบบเสียง” (Sound Systems) โดยตรง จากร้านค้า บริษัท และทีมงานที่มีคุณภาพ ที่เชื่อถือได้ และมีผลงานเป็นที่ยอมรับ มีการให้คำแนะนำที่ดี ทั้งเรื่องการออกแบบ การติดตั้ง และเทคนิคการใช้งานได้อย่างถูกต้อง ให้เหมาะกับลักษณะของงานที่เราต้องการใช้งาน โดยไม่มุ่งเน้นเพียงต้องการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว (คลิก ชมรีวิวสินค้าได้ที่นี่) ติดต่อผู้เชี่ยวชาญแบบมืออาชีพ คลิกเลย >>

เหตุผลสุดท้ายที่เราอยากแนะนำ นั่นคือใช้ของแท้ ของดี มีประกัน กันเถอะครับ นั่นก็เพราะ สินค้าของแท้กับของเทียม ทั้งคุณภาพและราคา แตกต่างกันมากครับ สินค้าของแท้ย่อมแพงกว่าของเทียมหลายเท่าตัว คุณภาพก็ดีกว่าหลายเท่าตัวเช่นกัน หากเราเห็นแก่ของถูก คุณภาพงานของคุณก็จะถูกตามไปด้วยนะครับ แถมหากเกิดข้อผิดพลาด ไฟรั่ว ไฟช๊อต บอร์ดพัง ควันโขมงขึ้นมา อาจพังทั้งงานทั้งระบบเลยทีเดียว (งานนี้ประกันใจก็ช่วยไม่ได้ครับ)

อย่าล้อเล่นกับระบบไฟฟ้าเลยครับ ใช้ของแท้มีมาตรฐานดีกว่า จ่ายเพิ่มแต่ชัวร์กว่า เสียงดีกว่า ปลอดภัยกว่าแน่นอน มีปัญหาส่งเข้าศูนย์บริการ ไม่มีลอยแพครับ ยิ่งกว่าประกันใจที่พ่อค้าบางรายใช้เป็นจุดขายตอนซื้อ แต่พอเครื่องเกิดปัญหาขึ้นมาก็ตัวใครตัวมัน สำหรับบทความนี้หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกท่านที่กำลังจะเลือกซื้อชุดเครื่องเสียงนะครับ