ใหม่! รีวิว JBL PRX ONE ตู้ลำโพง Active Column จัดเต็มทั้งฟังก์ชั่น และเทคโนโลยี!

Home » รีวิวสินค้า » ใหม่! รีวิว JBL PRX ONE ตู้ลำโพง Active Column จัดเต็มทั้งฟังก์ชั่น และเทคโนโลยี!

เวลาอ่านโดยประมาณ : 2 นาที

เวลาอ่านโดยประมาณ : 4 นาที

ใหม่ล่าสุด! รีวิว JBL PRX ONE ตู้ลำโพง Active Column ให้กำลังขับที่สูง พร้อมกับดิจิตอลมิกเซอร์ในตัว เต็มประสิทธิภาพ และเทคโนโลยีที่โดดเด่น! พกพาไปได้ทุกที่อย่างสะดวก เจาะลึก มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ไปชมกัน

รีวิว JBL PRX ONE ลำโพงแอคทีฟคอลัมน์ 12×2.5 นิ้ว ซับ 12 นิ้ว 2000W คลาส D

แชร์หน้านี้ :

ลำโพง Active Column รุ่นใหม่! จากค่าย JBL

ยังมุ่งเน้นคงความเป็นลำโพงแบบ All In One ไว้อย่างเต็มตัว เป็นลำโพง Active Column รุ่นใหม่ที่ทางได้เปิดตัวมาเมื่อต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ลำโพงประเภท Portable ทาง JBL ได้ทำมาแล้วรุ่นหนึ่งนั้นก็คือ EON ONE ส่วนในรุ่นนี้ก็จะเป็นอัพเกรดขึ้นมาอีกเลเวลหนึ่ง ได้มีการปรับปรุง ปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมเทคโนโลยีเข้ามา EON ONE มีความเป็นรุ่นเล็กกว่า ส่วน JBL PRX ONE นั้น ถือว่าขยับขยายให้ใหญ่ขึ้นมา สเปคจัดเต็มมากยิ่งขึ้นนั้นเอง โดยเด่นเรื่องการให้เอฟเฟกต์ Lexicon Effects และโปรเซสเซอร์ dbx DriveRack แบบครบๆ ยกทุกอย่างเข้ามาให้ไว้ใช้งานเรียบร้อยแล้ว

JBL PRX ONE มีอะไรใหม่?

อัพเกรดมาจาก EON ONE รุ่นสร้างชื่อของ JBL ก่อนหน้านี้ มีอะไรใหม่? JBL PRX ONE เป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น ให้กำลังขับสูงสุดถึง 2000 วัตต์ มีการตอบสนองความถี่ที่ลงได้ลึกถึง 35Hz มุมกระจายที่กว้าง 130° x 30° ปรับปรุงจำนวน Input/Output ที่เพิ่มขึ้น

ภาคเอฟเฟกต์คุณภาพสูง Lexicon Effects มี Engine ให้เลือกใช้งานอยู่ 4 Engine แถมด้วยค่าพารามิเตอร์แบบจัดเต็ม Delay, Reverb, Chorus, และ Echo
ภาคโปรเซสเซอร์ที่ให้มาเยอะ ทั้งหมดมาจาก dbx DriveRack มีให้ใช้ค่อนข้างครบ Master, Anti Feedback, Parameter, Limiter, Delay ได้ไกล 34 เมตร หากต้องการใช้งานในพื้นที่ยาว แสดงว่าเราไม่ต้องมี DSP แยกแล้ว
มี EQ แบบ Parametric ให้ 4 แบน หรือใช้งาน Fixed EQ ได้ 3 แบบ (low, mid, hi) มี Sub Sync ให้
สตรีมเพลงผ่าน Bluetooth 5.0 ได้ในเรื่องของระยะทางที่ไกลขึ้น มีความเสถียร ความหน่วงต่ำ
ฟังก์ชั่น Ducking Mode ของ SOUNDCRAFT เลือกใช้ชาแนลไหนก็ได้ เมื่อพูด สัญญาณเสียงเพลงจะดรอปลงชั่วขณะ
ช่อง Output แบบ Analog pass thru ลูปสัญญาณเสียงจากตัวแรกเข้าสู่ลำโพงอีกตัว มีความพิเศษตรงที่สามารถเลือกได้ทั้งแบบ Fullrange หรือ Subwoofer ก็ได้ (รองรับเสียงแบบโมโน ไม่สามารถรองรับเสียงแบบสเตอริโอได้)
มี USB 2.0 ให้จำนวน 2 ช่อง รองรับการจ่ายไฟ DC Out ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเครื่องเล่นเพลงอื่นๆ ได้
ควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น JBL PRO CONNECT ควบคุมระยะไกล ได้สูงสุดถึง 10 ตัว โดยเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ทั้งสตรีมเพลง และควบคุมบนแอปพลิเคชั่น

ปรับรูปทรงให้ดูดี ไม่เทอะทะ ลำโพงอาเรย์คอลัมน์ที่เสียบอยู่สามารถถอดออกได้ หรือใช้งานติดตั้งแบบถาวรก็ได้ ซึ่งมีอุปกรณ์เสริมรองรับ Bracket (ขายแยก) คุณสมบัติครบถ้วน วัสดุทนทานแข็งแรง กำหนดปรับตั้งค่าเสียงต่างๆ ได้ง่าย และรวดเร็ว มาพร้อมกับกระเป๋าใส่ลำโพงอาเรย์คอลัมน์ ใช้งานพกพา หรือติดตั้งได้อย่างสะดวก น้ำหนักรวมเพียง 25.7 กิโลกรัม

เทคโนโลยีที่จัดเต็ม!

คุณสมบัติในการออกแบบเทคโนโลยี JBL A.I.M. (Array Inumbration Mechanics) การจัดการเรียงดอกลำโพงแบบอาเรย์ให้เหมาะสม เพื่อการครอบคลุมเสียงอย่างสม่ำเสมอ ด้านข้าง ด้านหลัง ครอบคลุมเท่ากันในพื้นที่

ดอกลำโพงเสียงแหลม และเสียงกลาง ขนาด 2.5 นิ้ว จำนวน 12 ดอก (แบ่งเป็นลำโพงคอลัมน์ 2 ท่อน ท่อนบน ดอกลำโพงเสียงแหลม จำนวน 8 ดอก, ท่อนล่าง ดอกลำโพงเสียงกลาง จำนวน 4 ดอก ไม่สามารถเลือก หรือสลับใช้งานคนละท่อนได้) ทำให้ภาพรวมตัวดอกลำโพงมีความยืดหยุ่นได้ดี กระชับ หนักแน่น
ดอกลำโพงซับวูฟเฟอร์ ขนาด 12 นิ้ว จำนวน 1 ดอก ตัวตู้มี Bass Port ช่องลม จำนวน 4 ช่อง ทำให้เสียงค่อนข้างหนักแน่น เป็นธรรมชาติมากที่สุด แม้ให้ความดัง 130dB และความถี่ลงลึกถึง 35Hz ไม่จำเป็นต้องใช้ DSP แต่งเพิ่มเติม
เพาเวอร์แอมป์ในตัว กำลังขับ 2000 วัตต์ ขุมพลังเทคโนโลยีแอมป์ Class D ให้ประสิทธิภาพเต็มกำลัง ความผิดเพี้ยนน้อย จุดตัด Crossover เสียงแหลมลงลึกถึง 500 Hz ทำให้ช่วงต่อระหว่างความถี่มีความสมูธมากขึ้น กลมกลืน ไม่ขัดกัน ช่วยลดการทำงานของซับวูฟเฟอร์ ไม่ให้ทำงานหนัก

ภาคดิจิตอลมิกเซอร์

ดิจิตอลมิกเซอร์ขนาด จำนวน 7 ชาแนล ใช้งานได้อย่างครอบคลุมอเนกประสงค์

ชาแนลที่ 1 – 4 แบบ COMBO รองรับแบบ XLR หรือ PHONE มีวงจร Phantom Power
ชาแนลที่ 5 – 6 แบบ PHONE 1/4 มีวงจรรองรับ Hi-Z
ชาแนลที่ 7 AUX In แบบ 1/8 นิ้ว จะเสียบใช้งาน หรือเชื่อมต่อบลูทูธก็ได้

ตัวปุ่มหมุนเป็นแบบ Rotary Encoder หมุนได้อย่างอิสระ สามารถ Mute เสียงได้ โดยกดที่ปุ่มที่ชาแนลนั้นๆ กดค้าง 3 วินาที ไฟจะแสดงสถานะเป็นสีแดง เข้าถึงง่าย สามารถเลือกใช้งานได้ 2 แบบ

Mix Mode ใช้ควบคุม Gain ปรับค่าความดัง หรือใช้งานมองเป็น Fader Volume ทั่วไป
Channel Strip Mode เปลี่ยนหน้าที่ควบคุมเป็น ปุ่ม GAIN, ปุ่ม EQ, และปุ่ม FX

มีความสำเร็จรูปให้ความสะดวก ด้วยพรีเซ็ตที่ง่ายการต่อการใช้งาน ควบคุมผ่านหน้าจอแสดงผล LCD รองรับผู้ใช้งานทั้งมือใหม่ ไปจนถึงมืออาชีพด้วย Triple Tier DSP จำนวน 3 ระดับ

Entry Level ระดับเริ่มต้น หรือมือใหม่ มาพร้อมกับ Preset สำเร็จรูปให้เลือกใช้งาน
Intermediate Level ระดับกลางที่พอมีทักษะในการใช้งานปรับแต่งเสียง
High Level เหมาะกับผู้เชี่ยวชาญด้านใช้งาน ให้อิสระในการปรับแต่งเสียงต่างๆ มากที่สุด

การควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่น

การควบคุมด้วยแอปพลิเคชั่น JBL PRO CONNECT รองรับทั้ง iOS และ Android ใช้งานบนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต หน้าตาของแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานง่าย ควบคุมได้อย่างรวดเร็ว หรือสามารถควบคุมพร้อมกันได้สูงสุดถึง 10 ตัว เปลี่ยนชื่อลำโพง จัดฟังก์ชั่น Speaker Grouping จับกลุ่มลำโพงควบคุมภาค Volume พร้อมกันได้ด้วย Fader เพียงตัวเดียว สามารถตั้งค่าเสียงต่างๆ ทำ Offline Mode ไว้ล่วงหน้าได้ เพื่อลดเวลาการเซ็ตอัพระหว่างหน้างาน (แต่ขณะนี้ยังไม่รองรับ อาจจะต้องรอการอัพเดทในเวอร์ชั่นหน้า)

การใช้งานที่เหมาะสม

JBL PRX ONE ให้ความเป็น Linear ค่าความดังด้านหน้า ไปจนถึงด้านหลัง การกระจายเสียงได้ดีมากจัดจ้านสไตล์ JBL เหมาะกับการนำไปใช้งานในพื้นที่ขนาดกลาง ความจุคนได้ไม่เกิน 500 คน งานที่เหมาะสม คือ Live Sound, Operate, Presentation, Fitness, งานการศึกษา, ศาสนสถานต่างๆ, โรงแรม, งานภาครัฐ ถือว่าแทบจะครอบคลุมใช้งานได้หมด JBL PRX ONE ตัวเดียว สามารถใช้งานกระจายเสียงได้ไกลกว่า 15 เมตร ได้อย่างสบายๆ หากใช้งานรองรับการแสดงดนตรีสดแบบ Full Band แนะนำให้ใช้ 2 ตัว เพื่อประสิทธิภาพเสียงที่เติมเต็มกว่า

ป.ล. ไม่สามารถรองรับฟังก์ชั่น TWS (True Wireless Stereo เชื่อมต่อลำโพงแบบไร้สาย 2 ใบพร้อมกันในระบบเสียงสเตอริโอ) หากต้องการทำระบบเสียงสเตอริโอต้องใช้มิกเซอร์ร่วมด้วย