สารบัญ

• ประวัติความเป็นมาของ Shure SM7
  • การถือกำเนิดของตำนาน
  • ต่อยอดตำนานสู่ความสำเร็จอีกครั้งกับ Shure SM7B
  • เปรียบเทียบความแตกต่าง SM7A และ SM7B แบบชัดๆ(มีวิดีโอ)
• พรีวิว ใหม่ Shure SM7dB
  • ภาพรวมไมค์บันทึกเสียง Shure SM7dB
  • ดีไซน์ และรูปลักษณ์ภายนอก
  • สเปค
• เทียบชัดๆ SHURE SM7dB Vs SM7B ต่างกันยังไง รุ่นไหนดีกว่า?
• ความคิดเห็นทีมงาน

ก่อนที่จะไปแนะนำรุ่นใหม่ ทีมงานขออนุญาตพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับไมโครโฟนในตำนานอย่าง Shure SM7 กันก่อน เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ และเข้าใจว่าทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็น 1 ในไมโครโฟนบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในโลก

โดยเพื่อนๆ ที่รู้จักดีอยู่แล้ว สามารถที่จะข้ามไปอ่านข้อมูล Shure SM7dB ได้ที่ สารบัญ

• SHURE SM7B ไมค์บันทึกเสียงร้อง ฿28,800 ฿17,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

ขอบคุณภาพจากวิดีโอ Shure Southeast Asia Channel

Shure SM7 หรือที่บางท่านอาจจะเรียกว่า SM7A เปิดตัวครั้งแรกช่วงปี 1973 ได้รับการออกแบบ และพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพเสียง ในงานสตูดิโอ ที่โดดเด่นด้วยโทนเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ การตอบสนองความถี่ที่ครอบคลุม และรูปลักษณ์อันโดดเด่นที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับไมโครโฟนบันทึกเสียงในยุคต่อมา

SHURE SM7 เป็นเหมือนสัญลักษณ์ในโลกของการบันทึกเสียง(Legendary Icon of Audio Recording) เป็นตัวเลือกลำดับแรกๆ ที่ศิลปิน และนักดนตรีทั้งหลายเลือกใช้ ด้วยโทนเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ การันตีด้วยชื่อเสียงที่ยาวนานกว่า 50 ปี หากจะบอกว่า Shure SM7 เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Shure เป็นที่ยอมรับจากวงการเครื่องเสียงทั่วโลก ก็ดูจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงแต่อย่างใด

— กลับไปที่สารบัญ —

• SHURE SM7B ไมค์บันทึกเสียงร้อง ฿28,800 ฿17,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

(คลิกที่ภาพเพื่อไปยังหน้าสินค้า Shure SM7B หรือ คลิกที่นี่)

หลังจาก SM7A เปิดตัว เวลาก็ผ่านล่วงเลยไปเกือบ 30 ปี จนเมื่อปี 2001 ทาง Shure ก็ได้ขยับตัวครั้งใหญ่อีก 1 ครั้ง ด้วยการปล่อย Shure SM7B ไมค์บันทึกเสียงที่ถอดรูปลักษณ์ของ SM7A มาแบบเป๊ะๆ(แตกต่างกันแค่ตำแหน่งของพอร์ต XLR) ไม่เพียงแค่รูปลักษณ์ แต่โทนเสียงที่ได้จาก SM7B นั่นก็ถอดแบบกันมาเป๊ะ(จะแตกต่างกันในรายละเอียดโทนเสียงสูงเล็กๆน้อยๆ)

(คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

การเปิดตัว Shure SM7B เป็นอีกครั้งที่ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ที่ดีมากๆ ด้วยการพัฒนาการตอบสนองความถี่ ให้ครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม จากเดิม 40 Hz – 16 kHz เป็น 50 Hz – 20 kHz และอีกจุดที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาคือ แผ่นรองกันลม(Detachable Windscreen) ที่ทำหน้าที่กรองเสียงลม ช่วยให้เสียงที่ได้ คม ชัด และใสมากยิ่งขึ้น

— กลับไปที่สารบัญ —

สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยว่า SM7A และ SM7B แตกต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน สามารถที่จะดูความแตกต่างได้จากคลิปวิดีโอด้านล่างได้เลย ต้องขอบคุณทางช่อง Podcastage ที่ทำรีวิวไว้อย่างละเอียด

— กลับไปที่สารบัญ —

• SHURE SM7dB ไมค์บันทึกเสียงร้อง/พูด Built-In Preamp ฿36,900 ฿25,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

หลังจากการเปิดตัวของ Shure SM7B ในปี 2001 เวลาก็ล่วงเลยมากว่า 22 ปี(วันที่เขียนบทความปี 2023) เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2023 ทางเพจเฟซบุ้ค Shure ก็ได้มีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ประกาศเปิดตัว สินค้าใหม่! SHURE SM7dB ด้วยคำโปรยว่า

An AUDIO ICON is REBORN
การกลับมาของ สัญญะแห่งเสียง
(ลิเกจัดๆ ฮ่าๆ)

เหมือนเป็นการบอกกลายๆ ว่า SHURE SM7dB พร้อมท้าชน ทวงบัลลังค์ No.1 กับไมค์ทุกตัวในตลาด โดยที่ในบทความนี้ผมจะขออนุญาตเปรียบเทียบกับ SM7B(ไม่เทียบกับ SM7A) เนื่องจากภาพ และข้อมูลของ SM7A นั่นหายาก และตัวสินค้าน่าจะเก่าเกินกว่าที่จะหามาใช้กันได้แล้ว

• SHURE SM7dB ไมค์บันทึกเสียงร้อง/พูด Built-In Preamp ฿36,900 ฿25,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

Shure SM7dB เป็นไมโครโฟนแบบไดนามิก สำหรับบันทึกเสียง มีรูปแบบการรับเสียงแบบ Cardioid(รับเสียงเฉพาะด้านหน้า) รับเสียงร้อง/พูด ได้อย่างคมชัด ให้โทนเสียงที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนอย่าง SM7B ตอบสนองต่อความถี่ได้ครอบคลุมความถี่ที่หูมนุษย์สามารถได้ยินทั้งหมด(50Hz – 20kHz) เหมาะสำหรับงานหลากหลายแบบ เช่น งานบันทึกเสียงในสตูดิโอ, พอตแคสต์, สตรีมเมอร์ เป็นต้น

จุดสำคัญที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเข้ามาในรุ่น SM7dB คือ ปรีแอมป์(Preamp) ที่ในรุ่นก่อนๆ จำเป็นที่จะต้องหาปรีแอมป์ภายนอกมาใช้เสริม โดยที่ปรีแอมป์ภายนอกจากแบรนด์อื่นๆ ก็จะส่งผลกระทบกับโทนเสียงที่ได้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาทางแบรนด์จึงออกแบบ ปรีแอมป์เพื่อใช้งานกับ SM7B โดยเฉพาะ ช่วยให้โทนเสียงของไมค์ สะอาด ปราศจากการปรุงแต่ง เรียกว่าให้โทนเสียงดั้งเดิม สะอาด และเป็นธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็น

SHURE SM7dB จะมาในดีไซน์ และรูปลักษณ์ที่เหมือนกับ SM7B แทบจะถอดแบบกันมาเลย โดยที่จะมีจุดต่างในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตรงที่ SM7dB จะมีสีตัวเครื่องเป็นสีดำ(Black) ส่วน SM7B จะเป็นสีเทา(Charcoal Grey) และอีกหนึ่งจุดคือโลโก้ SHURE สีดำที่ออกแบบให้กลืนไปกับตัวเครื่อง แต่จะมองเห็นได้ชัดเมื่อกระทบกับแสงไฟ เป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ทำให้ดูสวยงาม และดูมีระดับมากขึ้นไปอีก

ส่วนรูปลักษณ์ภายนอกที่ไม่ได้ปรับอะไรใหม่ แต่กลับเป็นจุดที่ทีมงานชื่นชอบเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นรูปลักษณ์ที่มีความ คลาสสิค และเป็นเอกลักษณ์ของ “ไมค์บันทึกเสียง SHURE” ที่ทางแบรนด์เลือกใช้มาตั้งแต่ SM7, SM7B และ SM7dB นั่นเองครับ

Type	Dynamic (moving coil)
Frequency Response	50 to 20,000 Hz
Polar Pattern	Cardioid
Output Impedance
Preamp Engaged	27 Ω
Bypass Mode	150 Ω
Recommended Load	>1k Ω
Sensitivity
Flat Response Bypass Mode	-59 dBV/Pa[1] (1.12 mV)
Flat Response +18 dB Preamp Engaged	-41 dBV/Pa[1] (8.91 mV)
Flat Response +28 dB Preamp Engaged	-31 dBV/Pa[1] (28.2 mV)
Hum Pickup (typical, at 60 Hz, equivalent SPL/mOe)	11 dB
Preamplifier Equivalent Input Noise (A-weighted, typical)
-130 dBV
Polarity
Positive pressure on diaphragm produces positive voltage on pin 2 with respect to pin 3
Power Requirements (with preamp engaged)
48 V DC [2] phantom power (IEC-61938) 4.5 mA, maximum
Weight	0.837 kg (1.875 lbs)

— กลับไปที่สารบัญ —

หากคุณอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเกิดคำถามว่า ระหว่าง SM7B(รุ่นเก่า) และ SM7dB(รุ่นใหม่) รุ่นไหนเหมาะ และตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้มากที่สุด ผมขออนุญาตสรุปประเด็นเป็นหัวข้อ ดังนี้ครับ

Shure SM7dB Vs SM7B

• SM7B เป็นไมโครโฟนที่เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของการออกอากาศ (Broadcast Sound)
• SM7B จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ ปรีแอมป์ภายนอก (ต้องซื้อเพิ่ม)
• SM7dB มาพร้อมปรีแอมป์ในตัว เลือกระดับ Gain ได้ 2 ระดับ(+18dB และ +28dB)
• SM7dB มีราคาที่ถูกกว่าการซื้อ SM7B และ ปรีแอมป์เสริม(*ตัวใหญ่ๆ ว่าราคาจะถูกกว่าหากเป็นราคาต่างประเทศ แต่ถ้าหากเป็นราคาเปิดตัวในไทย 25,900 บาท ช่องว่างราคา 8,000 บาท ซื้อ SM7B บวกกับ Audio Interface ของ Focusrite ยังถูกกว่า SM7dB เลยครับ)

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเปรียบเทียบทั้ง 2 รุ่น คลิกที่นี่

— กลับไปที่สารบัญ —

คุณภาพโดยรวมค่อนข้างน่าประทับใจ ดีไซน์ภายนอกคงไม่จำเป็นต้องสาธยายกันให้มากความ สวยงาม คลาสสิค และมีระดับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับการเลือกซื้อไมโครโฟนดีดีสักตัว สิ่งสำคัญคือคุณภาพเสียง และฟังก์ชันในการใช้งานต่างหาก ว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานของเราได้ดีแค่ไหน

ซึ่งจุดที่ทำให้ SHURE SM7dB โดดเด่น และน่าสนใจ คือคุณภาพเสียง ที่ยังคงเอกลักษณ์ของเสียงจากไมค์ในตำนานอย่าง SM7B ไว้แบบเป๊ะๆ โทนเสียงที่อุ่น คม ชัด และใส ข้อดีทุกอย่างที่รุ่นก่อนมียังคงอัดแน่นอยู่ในรุ่นนี้แบบครบถ้วน เท่านั้นยังไม่พอทางแบรนด์ยังเพิ่ม ปรีแอมป์ ซึ่งน่าจะเป็นข้อจำกัดเดียวที่มีใน SM7B(รุ่นเก่า) 

หากคุณกำลังมองหาไมโครโฟนดีดีสักตัว สำหรับบันทึกเสียง, พอตแคสต์ หรือสตรีมเกม SHURE SM7dB เป็นไมโครโฟน 1 ตัวที่คุณไม่ควรมองข้าม รับประกันว่าคุณภาพเสียงที่คุณได้จาก SM7dB จะยอดเยี่ยม และคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน

ยิ่งถ้าเป็นราคาที่ต่างประเทศ Shure SM7B จะมีราคา 399 เหรียญ ส่วน Shure SM7dB จะมีราคา 499 เหรียญ ส่วนต่างราคาของทั้งสองรุ่น 100 เหรียญ(ประมาณ 3,800 บาท) นั้นไม่พอที่จะนำไปซื้อ Audio Interface หรือ ปรีแอมป์คุณภาพดี จึงทำให้การซื้อ SM7dB ที่มีปรีแอมป์ในตัว ดูจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ามากกว่า

แต่..

ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด ราคาเปิดตัว Shure SM7dB ในไทยจึงมีราคา 25,900 บาท แพงกว่า Shure SM7B ถึง 8,000 บาท ซึ่งเมื่อมองกันแบบแฟร์ๆ ช่องว่างราคา 8,000 บาทนี่เอาไปซื้อ Audio Inteface อย่าง Focusrite Scarlett Solo 4th Gen ที่มีราคาในไทยเพียง 5,990 บาท หรือคุณอยากจะได้รุ่นที่ดีขึ้นมาหน่อยอย่าง Scarlett 2i2 4th Gen ก็มีราคาเพียง 8,490 บาท เท่านั้น

ดูจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการซื้อ Shure SM7dB และต้องเพิ่มเงินเพื่อหาซื้อ Audio Interface มาใช้อีกอยู่ดี(เนื่องจาก SM7dB เป็นอินพุต XLR สุดท้ายก็ยังต้องมี Audio Interface หรือมิกเซอร์ใช้งานร่วมด้วยอยู่ดี) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน ทั้งหมดเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของทีมงานเท่านั้น

ก็จบกันไปแล้วกับบทความแนะนำสินค้า ใหม่ Shure SM7dB หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ ได้บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะได้รู้ว่า SM7dB แตกต่างกับ SM7B ยังไง? รุ่นไหนเหมาะกับคุณ วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ ~

ขอบคุณข้อมูลสินค้าจาก Shure

บทความที่คุณอาจสนใจ..