ไมค์ลอย UHF, VHF และ 2.4GHz แตกต่างกันยังไง!? บทความนี้มีคำตอบ

ไมค์ลอยคืออะไร?

---

ไมค์ลอย คือ ไมโครโฟนที่พัฒนาต่อยอดมาจากไมโครโฟนแบบใช้สาย โดยเปลี่ยนจากการรับ-ส่งสัญญาณเสียงผ่านทางสาย มาเป็นการส่งสัญญาณเสียงผ่านคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) แทน เพื่อแก้ปัญหาในการใช้งานที่จะต้องยึดติดกับสายไฟ เพิ่มความสะดวกในการพกพา และการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่มากกว่าแบบใช้สาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยสัญญาณรบกวน ที่มากกว่าไมโครโฟนแบบใช้สายด้วยเช่นกันครับ

โดยไมค์ลอยจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ เครื่องรับสัญญาณ และเครื่องส่งสัญญาณ ซึ่งมีหลักการทำงานง่ายๆ คือ ตัวเครื่องส่งสัญญาณ (ไมโครโฟน) จะทำหน้าที่ในการรับเสียงพูด-ร้อง และทำการแปลงสัญญาณแล้วส่งไปยังเครื่องรับสัญญาณ เพื่อแปลงสัญญาณกลับมาเป็นเสียงพูด-ร้อง อีกครั้ง

ข้อดีและข้อจำกัดของ ไมค์ลอย UHF, VHF, 2.4GHz และ Infrared

---

ไมค์ลอยสามารถแบ่งออกมาได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ ตามรูปแบบการส่งคลื่นความถี่ ดังนี้ครับ

1. 1. ไมค์ลอย UHF (ULTRA-HIGH Frequency)
   2. ไมค์ลอย VHF (VERY-HIGH Frequency)
   3. ไมค์ลอย 2.4GHz (Digital)
   4. ไมค์ลอย INFRARED

• SOUNDVISION SU-890D-II/HT ชุดไมค์ลอย ดิจิตอล มือถือคู่ ย่าน UHF ฿12,900 ฿10,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมค์ลอย UHF (ULTRA-HIGH FREQUENCY)

---

เป็นไมค์ลอยที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปัจจุบัน มีรูปแบบการส่งสัญญาณแบบ คลื่นวิทยุ (RADIO FREQUENCY) โดยจะใช้คลื่นความถี่ในช่วง 300-3000 MHz เป็นคลื่นความถี่สูงพิเศษ คลื่นมีความกว้างในการรับ-ส่งสัญญาณ ให้แบนด์วิธที่กว้างเป็นพิเศษ ช่วยลดปัญหาการรบกวนของสัญญาณ (Noise) แต่จะให้ระยะทางในการรับ-ส่งสัญญาณที่สั้น เมื่อเทียบกับแบบ VHF

จุดเด่นที่สำคัญของ ไมค์ลอย UHF คือตัวคลื่นสามารถเดินทางผ่านสิ่งกีดขว้างได้ดีกว่า VHF หรือกล่าวง่ายๆ คือ UHF นั้นเหมาะกับการใช้งานในอาคาร ที่มีกำแพงหรือ สิ่งกีดขวางเพราะคลื่นสามารถเดินทางทะลุสิ่งกีดขว้างได้ดีกว่านั้นเองครับ

ข้อดี ของไมค์ลอย UHF

• • มีการรบกวนของสัญญาณน้อย
  • คลื่นความถี่ทะลุสิ่งกีดขวางได้ดี เหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร
  • ให้ไดนามิกของเสียงที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับแบบ VHF

ข้อจำกัด ของไมค์ลอย UHF

• • ระยะการรับ-ส่งสัญญาณ สั้น เมื่อเทียบกับแบบ VHF
  • ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่า เมื่อเทียบกับแบบ VHF
  • ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับ VHF

• SHURE QLXD24A/SM58 ชุดไมค์ลอยมือถือเดี่ยว ย่าน VHF และ UHF ฿76,900 ฿65,400 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมค์ลอย VHF (VERY-HIGH FREQUENCY)

---

เป็นไมค์ลอยที่ได้รับความนิยมรองลงมาจาก UHF มีรูปแบบการส่งสัญญาณแบบ คลื่นวิทยุ (RADIO FREQUENCY) โดยจะใช้คลื่นความถี่ในช่วง 30-300 MHz เป็นคลื่นความถี่สูง คลื่นมีกำลังในการรับ-ส่งสัญญาณ ที่มีระยะทางค่อนข้างไกล ช่วยให้สามารถรับ-ส่งสัญญาณได้ไกลกว่าแบบ UHF แต่ยิ่งระยะทางในการรับ-ส่ง ไกลเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเสียงรบกวนมากขึ้นเท่านั้น

จุดเด่นที่สำคัญของ ไมค์ลอย VHF คือตัวคลื่นสามารถเดินทางได้ไกลกว่าแบบ UHF หรือกล่าวง่ายๆ คือ VHF นั้นเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่โล่ง ที่ไม่มีอะไรมาคั้นกลางระหว่าง เครื่องรับและส่งสัญญาณ เพราะคลื่นแบบ VHF มีรูปแบบการเดินทางของคลื่นที่เมื่อชนกับสิ่งกีดขวาง ตัวคลื่นจะชนและสะท้อนกลับ ไม่ได้ทะลุผ่านไปเหมือนกับ UHF นั้นเองครับ

ข้อดี ของไมค์ลอย VHF

• • มีระยะทางในการรับ-ส่งสัญญาณที่ไกล
  • ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่น้อยกว่าแบบ UHF
  • มีราคาที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับแบบ UHF

ข้อจำกัด ของไมค์ลอย VHF

• • มักจะพบปัญหาสัญญาณขาดหาย เมื่อใช้งานภายในอาคาร หรือพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางเยอะๆ
  • เกิดการรบกวนของสัญญาณ(Noise) ได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับแบบ UHF

• SHURE GLXD24A/SM58-Z2 ชุดไมค์ลอยมือถือเดียว ระบบดิจิตอล 2.4 GHz ฿36,600 ฿21,900 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมค์ลอย 2.4GHz (DIGITAL)

---

เป็นไมค์ลอยที่มีรูปแบบการรับ-ส่งสัญญาณแบบใหม่ล่าสุด ตัวไมค์ลอย 2.4GHz จะใช้รูปแบบของคลื่น Digital (สัญญาณ Wi-Fi) ในการรับ-ส่งสัญญาณเสียง เป็นคลื่นที่มีความยาวคลื่นค่อนข้างสั้น เมื่อเทียบกับ คลื่นแบบวิทยุ (VHF และ UHF) แต่ด้วยความที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแบบอื่น จึงทำให้วงจรไฟฟ้าภายในเล็กลงไปด้วย จึงมักจะมีขนาดที่เล็กกว่าไมค์ลอยคลื่นวิทยุ

จุดเด่นที่สำคัญของ ไมค์ลอย 2.4GHz คือการติดตั้งใช้งานที่ง่ายมากๆ เมื่อเทียบกับไมค์ลอยแบบอื่นๆ และราคาค่าตัวที่ค่อนข้างถูก แต่ส่วนตัวทีมงานมองว่าไมค์ลอยแบบ 2.4GHz มีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างมาก เกิดการรบกวนของสัญญาณได้ง่าย เพราะใช้งานคลื่นความถี่แบบ Digital อาจจะโดนสัญญาณไวไฟ หรือบลูทูธ มากวนได้ง่าย

ไมค์ลอยแบบ 2.4GHz พึ่งจะเกิดขึ้นมาได้ไม่ถึง 10 ปี ยังต้องถูกปรับแก้ และพัฒนาอีกเยอะ ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นไมค์ลอยที่ใช้คลื่นแบบ 2.4GHz มาเป็นไมค์ลอยกระแสหลัก ที่ทั่วโลกเลือกใช้ก็เป็นได้ครับ

ข้อดี ของไมค์ลอย 2.4GHz

• • ราคาค่าตัวที่ค่อนข้างน่ารัก
  • มีขนาดเล็ก
  • ติดตั้งและใช้งานง่าย

ข้อจำกัด ของไมค์ลอย 2.4GHz

• • มีระยะในการรับ-ส่งสัญญาณที่สั้น
  • โดนรบกวนสัญญาณง่าย

• AUDIO-TECHNICA AT-CLM9000PRO ไมโครโฟนไร้สายอินฟราเรด แบบคอนเดนเซอร์ (ไม่มีเครื่องรับ) ฿13,482 (รวม VAT 7% แล้ว)
• AUDIO-TECHNICA AT-CR9000 เครื่องรับสัญญาณไร้สายอินฟราเรด (ไม่มีไมโครโฟน) ฿22,149 (รวม VAT 7% แล้ว)

ไมค์ลอย INFRARED (IR)

---

เป็นไมค์ลอยที่มีรูปแบบการส่งคลื่นความถี่ที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ตัวสัญญาณอินฟราเรตจะมีลักษณะเฉพาะ เน้นเป็นการใช้งานในห้องที่มีกำแพงปิดรอบด้าน เนื่องจากตัวสัญญาณอินฟราเรต ไม่สามารถเดินทางผ่านสิ่งกีดขวางได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในห้องเรียน ซึ่งจะเกิดการกวนกันของสัญญาณได้ยาก แต่จุดด้อยคือระยะการส่งสัญญาณมีระยะที่สั้นที่สุดในทุกแบบ และห้ามมีสิ่งกีดขวางระหว่างตัวส่งและตัวรับสัญญาณ

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไมโครโฟนไร้สายอินฟราเรต

ความแตกต่างระหว่างไมค์ลอย UHF, VHF และ 2.4GHz

---

ความแตกต่างหลักๆ ของไมค์ลอยแต่ละแบบ จะเป็นในส่วนของการรับ-ส่งสัญญาณ และการรบกวนของสัญญาณ โดยผมจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ตามนี้ครับ

ระยะในการรับส่งสัญญาณ

ไมค์ลอย VHF > ไมค์ลอย UHF > ไมค์ลอย 2.4GHz > ไมค์ลอย Infrared

คุณสมบัติในการทะลุสิ่งกีดขวางของคลื่น

ไมค์ลอย UHF > ไมค์ลอย 2.4GHz > ไมค์ลอย VHF > ไมค์ลอย Infrared

การรบกวนของสัญญาณ

ไมค์ลอย Infrared > ไมค์ลอย UHF > ไมค์ลอย VHF > ไมค์ลอย 2.4GHz
(เรียงจากโดนรบกวนได้ยาก-ง่าย)

โดยนี้เป็นเพียงการเปรียบเทียบแบบหยาบๆ เท่านั้น! หากเป็นการใช้งานในสถานการณ์จริง ปัจจัยแวดล้อมในแต่ละสถานที่ ก็จะส่งผลต่อไมค์ลอยแต่ละแบบแตกต่างกันไป

จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมไมค์ลอย UHF จึงเป็นไมค์ลอยที่ ได้รับความนิยมสูงที่สุด ในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานที่ดีกว่าแบบอื่นอย่างชัดเจนในทุกๆ ด้านนั้น เองครับ

สรุป

---

จากการเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าไมค์ลอยแต่ละแบบ มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดกันทั้งนั้น แต่จุดที่ทำให้ ไมค์ลอย UHF ได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นเป็นเพราะ ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าระยะในการรับ-ส่งสัญญาณจะไม่ไกลเท่า ไมค์ลอย VHF แต่ตัวคลื่น UHF สามารถทะลุผ่านสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า จึงทำให้ ไมค์ลอย UHF เป็นไมค์ที่ตอบโจทย์การใช้ภายในอาคาร (Indoor) ได้ดี

แต่หากเพื่อนๆ จะเลือกไมค์ลอยสำหรับใช้งานกลางแจ้ง (Outdoor) ไมค์ลอย VHF ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน และสถานที่ที่จะนำไมค์ลอยนั้นๆ ไปใช้ หากเพื่อนๆ ต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไมค์ลอย ทีมงาน SoundDD.Shop ยินดีให้คำแนะนำ หรือสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ วิธีเลือกซื้อไมค์ลอย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย หากชอบบทความแนวนี้ รบกวนกดแชร์ให้จะเป็นพระคุณอย่างสูง วันนี้ผมต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ ~

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก FirstSource, RF Venue, Amerizon

บทความที่คุณอาจสนใจ..