12 ลำโพง ระดับ Hi-Fi ที่มีราคาสูงที่สุดในโลก

• Final Audio Opus 204
• CAT – MBX Powered Speakers
• Backes & Muller BM 100
• Moon Audio – Signature Titan II
• Wisdom Audio – Infinite Wisdom Grande
• Magico – Ultimate III
• Wilson Audio – WAMM Master Chronosonic
• Cessaro Horn Acoustics – Omega 1
• Kharma – Grand Enigma
• Moon Audio – Opulence
• Transmission Audio – Ultimate
• Hart Audio – D&W Aural Pleasure

อันดับที่ 12 : Final Audio – Opus 204

Final Audio เป็นบริษัทแบรนด์เครื่องเสียงจากญี่ปุ่น ผลงานลำโพงรุ่นนี้ถูกออกแบบโดยนักออกแบบเครื่องเสียงระดับโลก Kanemori Takai ลำโพง Opus 204 เปิดตัวครั้งแรกในงาน Munich High End Show ปี 2013 เป็นลำโพงที่มีน้ำหนักกว่า 800 กก. มีความพิเศษโดยใช้ Aluminium Cones ผิวทรายชนิดบางเฉียบ น้ำหนักเบาเพียง 8 ก. เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น เพื่อให้ได้เสียงที่มีความละเอียดสูง และความบางสูง

ราคา $450,000 หรือประมาณ 13.8 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 10 :Backes & Müller – BM 100

Backes & Müller เป็นแบรนด์เครื่องเสียง Audiophile จากประเทศเยอรมัน เป็นงานคราฟท์ ผลิต และประกอบด้วยมือ ลำโพง BM 100 เป็นเหมือนผลงาน Masterpiece ทางด้านวิศวกรรมของเยอรมัน หากสังเกตจากภาพ จากรูปทรง สรุปมันคือลำโพง? หรือมันคือตู้เย็น? หากจะซื้อมาใช้งาน คงต้องหาพื้นที่ใหญ่ๆ สักหน่อย เนื่องจากตัวลำโพงมีขนาดที่ใหญ่ สูง 2.3 ม. และด้านหน้ากว้าง 1.75 ตร.ม. หนึ่งในคุณสมบัติพิเศษ คือ Mid-Range Horn ขนาดใหญ่ เพื่อให้เสียงที่ใส ชัดเจน สมจริงที่สุด 

ตัวโครงสร้างที่เรียกว่า Bass jets frame ล้อมรอบลำโพงทั้งหมด ช่วยสร้างกำแพงเสียง ให้คลื่นเสียงเบสพุ่งไปไกลได้ยาวสูงสุดถึง 10 ม.

ราคา $550,000 หรือประมาณ 17 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 9 : Moon Audio – Signature Titan II

เป็นหนึ่งในลำโพงที่สุดยอดมาก ผลิตมาเพียง 3 คู่ #003 มีราคา 5.5 แสนดอลล่าห์ คู่ที่ #002 มีราคา 1 ล้านดอลล่าห์ และคู่ที่ #001 มีราคาสูงถึง 2 ล้านดอลล่าห์

Signature Titan II เป็นลำโพงรุ่น Limited Edition ที่ Moon Audio กล่าวว่ามันเป็นลำโพงในชุด “Ultra-Limited Edition Functional Acoustic Art Works” แต่ละคู่ได้ลายเซนต์โดยนักออกแบบ ผลิตด้วยมือ มีขนาดใหญ่ สูง 1.83 ม. และมีน้ำหนักกว่า 1.2 ตัน วัสดุตู้ลำโพงผลิตจากอลูมิเนียมเกรดอากาศยาน และเหล็กสีขาว ในตู้ลำโพงจะประกอบไปด้วยดอกลำโพงซับวูฟเฟอร์จำนวน 2 ดอก ดอกลำโพงย่านกลาง 2 ดอก ดอกลำโพงทวีตเตอร์ 1 ดอก สามารถตอบสนองความถี่ระดับ Ultrasonic 15Hz-90 kHz ซึ่งเกินกว่าที่หูมนุษย์จะรับรู้ได้

(ลำโพงคู่ที่ #003) ราคา $550,000 หรือประมาณ 17 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 8 : Wisdom Audio – Infinite Wisdom Grande

เป็นลำโพงที่เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์อวกาศอะไรอย่างนั้นเลย ด้วย Infinite Wisdom Grande เป็นระบบเสียงขนาดใหญ่ มีน้ำหนักรวมเกือบ 2 ตัน ทาง Wisdom Audio กล่าวว่าเป็นลำโพงที่เหมาะสำหรับขนาดพื้นที่ที่หลากหลายในห้องที่หรูหรา ไปจนถึงห้องโถงใหญ่ และห้องบอลรูม มีความสูง 2.4 ม. สามารถให้ระดับความดังเสียงที่สูงกว่า 120 dB ได้

ราคา $700,000 หรือประมาณ 21.5 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 7 : Magico – Ultimate III

จะเป็นอย่างไร? หาก Magico Ultimate III ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่นของคุณ ดูอลังการมาก ตัวลำโพงมีความสูงประมาณ 2.3 ม. เป็นลำโพงแบบฮอร์น 5 ทาง ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด มีรายงานว่าลำโพงชุดนี้ต้องใช้แอมป์สูงถึง 10 ตัว ไดรเวอร์เสียงกลาง-เบส และเบส 4 ตัว แยกด้วยครอสโอเวอร์ที่ควบคุมด้วย DSP ส่วนต่างๆ ที่ดูเหมือนจะซับซ้อน แต่ถูกออกแบบมาให้อย่างสวยงาม ลงตัว แปลกตา แต่เรียบง่าย หากสนใจสั่งซื้อต้องใช้เวลารอนานถึง 18 เดือน กว่าจะได้ลำโพงชุดนี้มาใช้งาน

ราคา $700,000 หรือประมาณ 21.5 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 6 : Wilson Audio – WAMM Master Chronosonic

เป็นการออกแบบลำโพงที่ลึกล้ำ เกินกว่าจะคิดได้มาก การออกแบบลำโพงแบบเปิด เปลี่อย เพื่อลดพลังงานความร้อนที่เก็บไว้ในตู้ลำโพงให้เหลือน้อยที่สุด ส่วนของช่องลมเบสด้านล่าง สามารถย้ายไปที่ด้านหน้า หรือด้านหลังของลำโพงได้ ปรับแต่งตามทฤษฎีต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการฟังที่หลากหลายมากที่สุด ผลิตออกมาเพียง 70 คู่เท่านั้น เป็นลำโพง 6 ทาง ลำโพงแบบไดนามิค 8 ดอก สูง 2.1 ม. มีน้ำหนักมากถึง 408 กก. ต่อข้าง วัสดุสุดพิเศษ และความใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ ของลำโพง ทำให้มีราคาที่สูง

ราคา $850,000 หรือประมาณ 26.1 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 5 :Cessaro Horn Acoustics – Omega 1

ผู้เชี่ยวชาญด้านลำโพงฮอร์น จากเยอรมัน Cessaro Horn Acoustics กับรุ่นสูงสุด Omega 1 ซึ่งมีความสูง 2.8 ม. และมีน้ำหนักกว่า 4.5 ตัน จุดเด่นที่สังเกตได้คือปากฮอร์นเบสขนาดใหญ่ อาจจะไม่เหมาะกับห้องนั่งเล่นสักเท่าไหร่ สามารถสั่งซื้อ เลือกสีที่ชอบ วัสดุตู้ และแผงด้านข้างมีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน

ราคา $1,000,000 หรือประมาณ 30.7 ล้านบาทไทย

รูปภาพจาก kharma.com

อันดับที่ 4 : Kharma – Grand Enigma

ผลิตเมื่อปี 1992 เป็นแบรนด์ลำโพงสัญชาติดัชก์ Exquisite Extreme Grand Limited Edition 25 ระบบเสียงนี้ได้รับการเล่ากันมาว่าถูกออกแบบ และผลิตภายในห้องใต้ดิน หลุมหลบภัยระเบิดปรมาณูขนาดใหญ่ในเบลเยียม ถือว่าเป็นระบบเสียงที่แพงที่สุด และให้เสียงดีที่สุดในขณะนั้น

สเปคของลำโพงประกอบไปด้วย 3 ส่วน

• ลำโพงเบสจำนวนข้างละ 12 ดอก ขนาด 15 นิ้ว พร้อมช่องลมเบสขนาดใหญ่ กำลังขับ 1500 วัตต์ ตอบสนองความถี่ 10 Hz – 100 Hz
• ลำโพงเสียงกลางจำนวนข้างละ 24 ดอก ขนาด 7 นิ้ว กำลังขับ 500 วัตต์
• ลำโพงเสียงแหลม 16 ดอก เป็นไดร์เวอร์ฟิล์มที่มีความบาง กำลังขับ 100 วัตต์
  ทั้งหมดมีน้ำทั้งประมาณ 12.6 กก. ต่อคู่
  ขนาดของลำโพงทั้งหมด สูง 3.5 ม. กว้าง 3.8 ม. ลึก 1 ม.

ให้พลังเสียงที่เสมือนยกวงออเครสต้า เครื่องดนตรีกว่า 60 ชิ้น มาแสดงสดๆ กันตรงหน้าเลยทีเดียว เป็นลำโพงที่ไม่ค่อยพบข้อมูลเพิ่มเติมมากนัก ถูกปิดบัง แม้แต่ภาพถ่าย ก็มีให้ค้นพบน้อยมาก แถบไม่มีใครได้เก็บภาพไว้

ราคา $1,000,000 หรือประมาณ 30.7 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 3 : Moon Audio – Opulence

เป็นอีก 1 รุ่น ในแบรนด์ Moon Audio ที่ติดอยู่ใน 12 ลำโพงที่มีราคาสูงที่สุดในโลก รุ่นนี้เหมือนจะดูยิ่งใหญ่กว่าตัวแรกไปอีก ลิมิเต็ดสุดๆ เพราะผลิตเพียง 10 คู่ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 1.1 ล้านดอลลาร์ มีน้ำหนักสูงถึง 1.4 ตัน ตอบสนองความถี่ 15Hz- 90Khz พร้อมเทคโนโลยีที่เรียกว่า Dark Star ที่ทำให้เกิดเสียงอย่างน่าทึ่ง โดยทางแบรนด์กล่าวว่าเป็นเทคโนโลยีทางเลือกในการฟังเพลง ใช้การส่งสัญญาณเสียงเข้าสู่สมองของผู้ฟังโดยตรง 

ราคา $1,100,000 หรือประมาณ 33.8 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 2 : Transmission Audio – Ultimate

เป็นความภาคภูมิใจของ Transmission Audio กับรุ่น Ultimate หากจะเปรียบเทียบกับรถสปอร์ต Transmission Audio กล่าวไว้ว่าระบบเสียงนี้จะ “รวมความเป็น Ferrari, Mazerati และ Koenigsegg ไว้ในรถคันเดียวกัน” ถ้าเปรียบง่ายๆ คือ เป็นเสมือนลำโพงที่รวมสุดยอดรถซุปเปอร์คาร์แบรนด์ดังๆ ไว้ในลำโพงเพียงชุดเดียว

ลำโพงชุดนี้เป็นระบบสเตอริโอเต็มรูปแบบ 2 ชาแนล ประกอบไปด้วยสุดยอดไดรเวอร์ขนาดต่างๆ ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต เช่น ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Dipole Woofer 4 ใบ แต่ละตัวมีขนาด 15 นิ้ว, ดอกลำโพง Ultra low distortion ให้ความผิดเพี้ยนต่ำ 24 ดอก, Wide band woofers ขนาด 8 นิ้ว เป็นต้น ที่แปลกคือ สามารถประกอบบรรจุให้อยู่ภายในตู้ลำโพงขนาดเพียง 2.1 ม. เสียงที่ได้จะสุดยอดขนาดไหน?

ราคา $2,000,000 หรือประมาณ 61.5 ล้านบาทไทย

อันดับที่ 1 : Hart Audio – D&W Aural Pleasure

มาถึงลำโพงที่มีราคาสูงที่สุดในโลก แค่รูปทรงของลำโพงก็สวยงาม แปลกตา หรูหรา มีขนาดประมาณ 76 ซม. เป็นเสมือนชิ้นงานประติมากรรม ดูแตกต่างจากลำโพงที่ผ่านๆ มา ที่มีขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้น ซึ่งสาเหตุที่มีราคาสูง ก็เพราะมีเพียงคู่เดียวในโลก! ที่วัสดุของโครงสร้างลำโพงนั้น เป็นทองคำแท้ 18 กะรัต น้ำหนักประมาณ 100 กก. ซึ่งเป็นทองคำที่บริสุทธิ์ที่สุด รุ่นนี้ถูกผลิตออกมาทั้งหมดจำนวน 105 คู่ แบ่งเป็นวัสดุทองคำแท้ 18 กะรัต เพียง 1 คู่เท่านั้น, 5 คู่ เป็นวัสดุเงิน และ 99 คู่ เป็นวัสดุทองแดง ซึ่งราคาก็สูงมากเช่นกัน

ประกอบไปด้วยดอกลำโพง 3 ดอก ดอกลำโพงหลักตอบสนองย่านเบส และย่านกลาง และดอกลำโพงทวีตเตอร์เสียงแหลม อยู่ตรงกลาง รวมไปถึงยังมี ดอกลำโพงซุปเปอร์ทวีตเตอร์เรียงกันอยู่ที่มุมบนอีก ตอบสนองความถี่ 47 Hz – 37 kHz การออกแบบที่เพื่อให้ได้เสียงที่สมดุล ใส เคลียร์ ชัดเจน ให้ภาพของเสียงที่สมจริงกับทุกฟอร์แมตของไฟล์เพลง

ราคา $4,700,000 หรือประมาณ 144.5 ล้านบาทไทย

สรุป

ทั้งหมดนี้ ก็คือ “12 ลำโพงที่มีราคาสูงที่สุดในโลก” ลำโพงที่แพงที่สุดในโลก ทำให้เราได้เห็นว่าวงการระบบเสียง Hi-Fi นั้นไปไกลมาก เชื่อว่าหลายๆ คน คงอยากสัมผัสถึงพลังเสียงของลำโพงเหล่านี้แน่ๆ เหตุผล และที่มาของราคาลำโพงที่สูงนั้น ไม่ได้เป็นการแข่งขันในด้านราคา แต่เป็นเรื่องของสตอรี่ต่างๆ แนวความคิดของนักออกแบบ ศิลปะของการออกแบบ และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบเสียง การใช้วัสดุส่วนประกอบต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุดในแบบฉบับของค่ายแบรนด์ลำโพงต่างๆ ได้วางไว้ ซึ่งก็ส่งผลให้มีราคาที่สูงตามไปด้วย ถือว่าเป็นต้นแบบให้กับแบรนด์ลำโพงต่างๆ ได้พัฒนาลำโพงใหม่ๆ ขึ้นมาในอนาคต

ขอบคุณบทความจาก By Simon Lucas, What Hi-Fi?