Reflexion Filter เปลี่ยนทุกห้องให้เป็นสตูดิโอได้จริงไหม?

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ทำความรู้จักกับ Reflection Filter
• เสียงสะท้อนและเสียงรบกวน ส่งผลกระทบอย่างไร?
• คุณสมบัติและหน้าที่ของ Reflexion/Reflection Filter
• Reflection Filter vs ห้องอัดเสียงแบบมืออาชีพ
• วิธีเลือก Reflection Filter ที่เหมาะสม
• แนะนำแบรนด์
• สรุป Reflection Filter: ตัวช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงที่คุ้มค่า

ขอบคุณรูปจาก Aston Microphones

ทำความรู้จักกับ Reflection Filter

Reflexion Filter หรือ Reflection Filter (เรียกว่าอะไรก็ได้ ความหมายเหมือนกัน) คืออุปกรณ์สำหรับการบันทึกเสียง ที่ใช้ในสตูดิโอขนาดเล็กหรือในพื้นที่ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการบันทึกเสียงโดยตรง หน้าที่หลักคือ ช่วยลดเสียงสะท้อนจากผนังและเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อให้ได้เสียงบันทึกที่มีความชัดเจนและคุณภาพเสียงที่สูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำ ความชัดเจน และคุณภาพเสียง เช่น การร้องเพลง การบันทึกพอดแคสต์ หรือการบันทึกเสียงพูด

การใช้งาน Reflection Filter มักใช้คู่กับ Pop Filter เพื่อป้องกันเสียงลมและเสียง Plosive ซึ่งช่วยให้คุณภาพเสียงที่ได้ใกล้เคียงกับสตูดิโอมากที่สุด โดยบางครั้ง Pop Filter จะรวมอยู่ในชุดของ Reflection Filter เพื่อความสะดวกในการใช้งานครับ

เสียงสะท้อนและเสียงรบกวน ส่งผลกระทบอย่างไร?

เสียงสะท้อน (Echo) และเสียงรบกวน (Noise) เปรียบเสมือนไม้เบื่อไม้เมาของการบันทึกเสียงเลยก็ว่าได้ เพราะมันมักสร้างปัญหาและลดคุณภาพเสียงของเราลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสียงสะท้อนเกิดจากเสียงพูดหรือเสียงดนตรีเดินทางไปกระทบพื้นผิวต่างๆ เช่น ผนัง เพดาน หรือพื้น แล้วสะท้อนกลับมายังไมค์บันทึกเสียง ทำให้เกิดเสียงซ้อน ซึ่งเป็นเสียงที่เราไม่ต้องการ

ส่วนเสียงรบกวน (Noise) คือเสียงที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด เช่น เสียงลม การเคลื่อนที่ของสิ่งของ เสียงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเสียงรอบข้าง ไมค์คอนเดนเซอร์ที่นิยมใช้ในการบันทึกเสียงมีความไวต่อเสียงสูงและตอบสนองต่อความถี่ได้กว้าง จึงรับทั้ง Echo และ Noise ได้ง่าย

ดังนั้น การใช้ Reflection Filter ในห้องที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการบันทึกเสียงหรือไม่มีแผ่นซับเสียง จะช่วยลดเสียงสะท้อนและเสียงรบกวน ให้คุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับห้องอัดเสียงหรือสตูดิโอ ทำให้เสียงที่บันทึกออกมาชัดเจนและปราศจากปัญหาเสียงรบกวนครับ

คุณสมบัติและหน้าที่ของ Reflexion/Reflection Filter

Reflexion/Reflection Filter ที่ตอบโจทย์การบันทึกเสียงในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในบ้าน สตูดิโอขนาดเล็ก หรือแม้แต่การใช้นอกสถานที่ ซึ่งมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ครับ:

1. ลดเสียงสะท้อนจากพื้น ผนัง และเพดานกลับเข้าสู่ไมโครโฟนด้วยแผ่นดูดซับเสียง ซึ่งช่วยลดเสียง “ก้อง” หรือ “แหลมเกินไป” ในเสียงบันทึก
2. ดูดซับเสียงรบกวนรอบข้าง เช่น เสียงคนคุย เสียงลม หรือเสียงเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่สามารถเข้าสู่ไมโครโฟนและรบกวนคุณภาพของเสียง โดยการล้อมรอบไมโครโฟนด้วยชั้นวัสดุที่ดูดซับและป้องกันเสียงภายนอกได้
3. ผลิตจากวัสดุหลายชนิดที่ทำงานร่วมกันเพื่อดูดซับเสียงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ชั้นโฟมอะคูสติก, แผ่นโลหะเจาะรู, ใยแก้วหรือแผ่นเส้นใยพิเศษ
4. ปรับปรุงคุณภาพเสียงในงานบันทึก ช่วยให้เสียงที่บันทึกมีความสมจริงและเป็นธรรมชาติ เช่น เสียงพูด เสียงร้อง
5. รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียงในบ้าน, งานสตูดิโอเล็กๆ, การสร้างพอดแคสต์ หรือการบันทึกเสียงดนตรี

Reflection Filter vs ห้องอัดเสียงแบบมืออาชีพ

ทั้ง Reflection Filter และห้องอัดเสียงมีจุดประสงค์เดียวกันคือการเพิ่มคุณภาพเสียงในการบันทึก แน่นอนว่าห้องอัดเสียงมืออาชีพให้คุณภาพที่เหนือกว่า ด้วยโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ออกแบบมาอย่างละเอียด แต่ก็มาพร้อมต้นทุนสูง ตั้งแต่หลักแสนถึงล้านบาท และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง

สำหรับผู้ที่มีงบจำกัด เช่น ผู้ใช้งานใหม่ นักดนตรีมือสมัครเล่น หรือผู้สร้างคอนเทนต์ Reflection Filter เป็นทางเลือกที่คุ้มค่า ลงทุนเพียงครั้งเดียว ไม่ต้องปรับปรุงพื้นที่หรือสร้างโครงสร้างใหม่ และยังให้คุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงห้องอัดเสียงระดับมืออาชีพ เหมาะสำหรับงานทั่วไป เช่น การบันทึกพอดแคสต์ เสียงพูด หรือร้องเพลง

สรุปได้ว่า ห้องอัดเสียงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูงสุด เช่น การทำอัลบั้มเพลง แต่ Reflection Filter ช่วยให้คุณได้เสียงคุณภาพดีในงบประมาณที่จับต้องได้

ขอบคุณรูปจาก sE Electronics

วิธีเลือก Reflexion-Filter ที่เหมาะสม

ถ้าคุณกำลังมองหา Reflection Filter อยู่ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกอย่างไรดี เรื่องนี้จริงๆ แล้วไม่ยากครับ ให้เราลองตั้งคำถามกับตัวเองดูครับ ซึ่งคำถามนั้นก็เป็นคำถามง่ายๆ ดังนี้เลยครับ ทุกคนตอบได้แน่นอน

1. ใช้งานเพื่ออะไร?
   ให้เราคิดก่อนว่าจะเอาไปใช้งานแบบไหน ถ้าบันทึกเสียงพูดหรือร้องเพลงในบ้าน รุ่นมาตรฐานก็เอาอยู่ แต่หากอยากใช้บันทึกเสียงดนตรีหรือทำงานโปรหน่อย เลือกตัวที่วัสดุแน่นๆ จะช่วยให้เสียงเป๊ะขึ้น
2. วัสดุที่ต้องการ?
   สิ่งที่ทำให้ Reflection Filter ช่วยลดเสียงสะท้อนจากผนังและเสียงรบกวนได้ดีมาจากวัสดุ ซึ่งประกอบไปด้วย โฟมอะคูสติก ใยแก้วหรือใยสังเคราะห์ แผ่นโลหะเจาะรู ถ้าต้องการเสียงเนียนๆ เลือกที่วัสดุดีๆ ไปเลย แต่ถ้าใช้งานทั่วไป รุ่นมาตรฐานก็โอเคแล้ว
3. ใหญ่หรือเล็กดี?
   ถ้าทำงานในบ้านหรือสถานที่ขนาดเล็ก เลือกขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ส่วนถ้าตั้งไว้ที่สตูดิโอ แนะนำให้เลือกตัวใหญ่หน่อย จะทำให้เก็บเสียงได้รอบด้านมากขึ้น
4. การติดตั้งง่ายไหม?
   สำหรับผู้ที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เลือกรุ่นที่บอกว่า “ติดตั้งง่าย” ไปเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตจะบอกว่าสินค้าของตัวเองนั้นติดตั้งง่ายอยู่แล้ว จุดนี้ให้หารีวิวตามแหล่งต่างๆ ดูครับ เพราะคำว่าง่ายของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน
5. แบรนด์น่าเชื่อถือไหม?
   สำหรับมือใหม่หรือผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ตรงจากการใช้งาน ลองอ่านรีวิวของคนที่ใช้งานจริง ดูว่ารุ่นไหนตอบโจทย์มากที่สุด ซึ่งแบรนด์ดังๆ อย่าง sE Electronics หรือ Aston ถือว่าไว้ใจได้ และมีรีวิวให้อ่านเยอะครับ
6. ราคาเหมาะกับงบไหม?
   Reflection Filter นั้นมีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหมื่นบาท หากเพิ่งเริ่มต้นให้เลือกรุ่นที่ราคากลางๆ ไม่ต้องแพงมาก หรือหากคิดจะใช้งานยาวๆ ลงทุนเพิ่มอีกนิดจะได้ตัวที่วัสดุทนทานและใช้งานได้นานครับ
7. ใช้กับไมค์ของเราได้ไหม?
   เช็คว่า Reflection Filter เข้ากับไมโครโฟนของเราได้หรือไม่ บางรุ่นอาจออกแบบมาสำหรับไมโครโฟนเฉพาะ ซึ่งปกติแล้วทางผู้ผลิตจะบอกไว้ว่าใช้กับไมโครโฟนแบบไหนบ้าง

การตั้งคำถามตามที่ผมได้แนะนำไปจะทำให้สามารถจำกัดสโคปให้แคบลง ช่วยให้เลือกซื้อง่ายขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นคำถามนอกเหนือจากที่ผมแนะนำไปก็ได้ครับ เพื่อให้ได้รุ่นที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด

แนะนำแบรนด์

Reflection Filter คุณภาพดี มีหลายแบรนด์ที่น่าเชื่อถือในตลาด ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันไป เรามาดูจัดเด่นของแยรนด์ที่ได้รับความนิยมกันดีกว่าครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

1. sE Electronics sE Electronics เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิก Reflection Filter รุ่นแรกของโลก ใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีการออกแบบที่พิถีพิถัน ปัจจุบันมีรุ่นที่ผลิตออกมามากมายและรุ่นที่ได้รับความนิยมได้แก่ sE Reflection Filter Pro และ sE Reflection Filter X

2. Aston Microphones Aston Microphones เป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์ล้ำสมัย จากวัสดุรีไซเคิลคุณภาพสูงที่เก็บเสียงได้ดีรอบทิศทาง ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมคือ Aston Halo ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์โค้งครอบไมโครโฟน ช่วยลดเสียงสะท้อนรอบด้าน

จริงๆ แล้ว ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่น่าสนใจครับ แต่ที่แนะนำเพียงสองแบรนด์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีจำหน่ายใน SoundDD.Shop ซึ่งผู้เขียนเองได้ทดลองใช้งานมาแล้ว ทำให้มั่นใจและกล้าที่จะนำเสนอสองแบรนด์นี้ครับ

สรุป Reflection Filter : ตัวช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงที่คุ้มค่า

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเสียงสะท้อนและเสียงรบกวนระหว่างการบันทึกเสียง และมองว่าสตูดิโอมืออาชีพเป็นเรื่องที่เกินเอื้อม Reflection Filter คือทางออกที่ตอบโจทย์ที่สุด ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยลดเสียงรบกวนและเสียงสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกับการใช้งานในสตูดิโอ

นอกจากนี้ Reflection Filter ยังมีให้เลือกหลายเกรดและหลายราคา เพื่อให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณของผู้ใช้ หากถามว่า Reflection Filter คุ้มค่าหรือไม่? คำตอบคือ คุ้มค่าแน่นอน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงในราคาที่เอื้อมถึง

บทความที่คุณอาจสนใจ..